ส่วนตัวเลข GDP ของจีนที่ประกาศออกมาโต 6.9% แม้ว่าจะดีกว่าตลาดคาดโต 6.8% แต่สปีดการโตน้อยไป ในแง่ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ฯจึงยังไม่ค่อยมั่นใจตัวเลขจีนเท่าไร และยังคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนอาจจะมีการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจก่อนสิ้นปีนี้ เช้านี้ตลาดหุ้นจีนก็แกว่งไม่มากราว 0.1-0.2% ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ
ด้าน Fund Flow ในสัปดาห์นี้ไม่ค่อยมีเงินเข้ามา และเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติก็ขายสุทธิด้วย ซึ่งจากที่เก็บตัวเลข 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเงินเข้าตลาดตราสารหนี้ถึง 5 หมื่นกว่าล้านบาท ส่วนตลาดหุ้นเข้าน้อย
ดังนั้นวันนี้มองว่าดัชนีฯไม่ควรต่ำกว่าระดับ 1,409 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,430 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(19 ต.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,230.54 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด(+0.08%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,905.47 จุด เพิ่มขึ้น 18.78 จุด(+0.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,033.66 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด(+0.03%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 114.31 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 9.15 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 84.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.23 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.32 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 2.32 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 ต.ค.58) 1,416.91 จุด ลดลง 1.47 จุด(-0.10%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 176.64 จุด เมื่อวันที่ 19 ต.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 ต.ค.58) ปิดที่ 45.89 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.37 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 ต.ค.58)ที่ 6.19 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 35.44/46 มีโอกาสอ่อนค่า รอติดตามผลประชุม ECB พฤหัสนี้
- ธอส.เปิดยื่นกู้มาตรการซื้อบ้านไม่เกิน 3 ล้าน วันแรก คึกคักทั่วประเทศ คาดประเดิมขอสินเชื่อ 2 พันราย ขอเวลา 2 สัปดาห์ประเมินความต้องการก่อนขยายวงเงิน ธนารักษ์เร่งสำรวจที่ราชพัสดุสนองนโยบาย 'สมคิด'
- นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย(ทอท.)ศึกษาการปรับขึ้นค่าธรรมเนียม หรือค่าเซอร์ชาร์จรถแท็กซี่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ทั้งรถแท็กซี่มาตรฐานทั่วไป และแท็กซี่แวนให้แล้วเสร็จใน 3 เดือน
- ธปท.เผยการชะลอเศรษฐกิจจีนในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ยังเป็นไปตาม ธปท.คาดการณ์ไว้ตามกิจกรรมเศรษฐกิจ แผ่วลง จับตา 4 ประเด็นสำคัญชี้ชะตาเศรษฐกิจจีน รายได้รัฐต่ำอาจฉุดลงทุนภาครัฐ ยอดคงค้างปริมาณบ้านรั้งการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ กำลังการผลิตส่วนเกินของอุตสาหกรรมอาจกระทบทิศทางการลงทุนภาคอุตสาหกรรม รวมถึงความผันผวนในตลาดการเงิน
- ธปท.รายงานธุรกรรมการโอนเงินรายย่อย จำแนกตามประเภทการให้บริการ ล่าสุด ณ สิ้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มูลค่าโดยรวมลดลงจากระยะเดียวกันปีก่อนถึง 2.8 หมื่นล้านบาท หรือ 10.7% จาก 2.63 แสนล้านบาท เหลือ 2.34 แสนล้านบาท ทั้งที่ปริมาณของธุรกรรมยังคงเพิ่มขึ้น 3.03 แสนรายการ หรือ 7.4% จากเดิม 4.08 ล้านรายการ เพิ่มเป็น 4.38 ล้านรายการ
*หุ้นเด่นวันนี้
- CHG(ธนชาต)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 2.60 บาท เชื่อมั่นในเส้นทางการเติบโตในระยะยาว ด้วยคาดว่า EPS จะเติบโตอย่างยั่งยืนที่ 18% ต่อปีต่อเนื่องตลอดปี 2015-19 อย่างไรก็ตามการเติบโตในระยะยาวของ CHG มีแนวโน้มที่น่าจะดีกว่าที่คาด โดยได้แรงหนุนจากนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ และโครงสร้างพื้นฐานไปทางภาคตะวันออกซึ่งเป็นที่ซึ่งโรงพยาบาลของ CHG ตั้งอยู่ และมีแผนจะขยายตัวมากขึ้น และจากการที่ CHG มีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ดี จึงปรับประมาณการกำไรขึ้น 3% โดยเฉลี่ยจากปี 2020 เป็นต้นไป เพื่อสะท้อนจำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการจำนวนมาก
- SYNTEC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 4 บาท คาดจะมีกำไรสุทธิใน 3Q58 ราว 119 ล้านบาท ใกล้เคียงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่จะเติบโต 14% QoQ ส่วนหนึ่งมาจากการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น 1.74 พันล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่า SYNTEC จะยังที่รักษาระดับไว้ได้ที่ 13.4% ส่งผลต่อกำไรสุทธิงวด 9M58 ทำได้ 323 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY แม้ว่ารายได้จะเติบโตเพียง 2% แต่การก่อสร้างงานใหม่ทำให้มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปรับดีขึ้นเป็น 13.2% จาก 12.1% ส่งผลต่อกำไรดำเนินงาน (operating Profit) เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับรายปี
- MTLS(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 23 บาท คาดว่าบริษัทจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกำไรอย่างยั่งยืนที่ 51% ในปี 2016-18 และอัตราการขยายสาขาที่ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทำให้มีประโยชน์จาก operating leverage ซึ่งจะทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้เริ่มมีแนวโน้มสู่ขาลงต้นตั้งแต่ปีหน้า พร้อมปรับการประมาณการของกำไรขึ้น 1-17% ในปี 2016-18
- IRPC (เคเคเทรด)เป้า 4.60 บาท คาดผลประกอบการ 3Q58 ไม่แย่ตามที่ตลาดเคยกังวลก่อนหน้านี้ เนื่องจากการบริหาร Stock และการอ่อนค่าของเงินบาท, เชิงเทคนิคราคาหุ้นเลี้ยงตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 4.15 บาท มีโอกาสฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง
- TMB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 3.04 บาท กำไรไตรมาส 3/58 ดีกว่าคาด +25% Q-Q, +18% Y-Y ดีกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ราว 20-25% จากการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญน้อยกว่าคาด เพราะมีการโอนกลับเงินสำรองจำนวนหนึ่งหลังขาย NPL ออกไป แม้ไม่รวมการตั้งสำรองฯ กำไรจากการดำเนินงานก็เพิ่ม 2% Q-Q และ 11% Y-Y จาก NIM ที่ดีขึ้นเป็น 3.02% จาก 3% ในไตรมาสก่อน
- BMCL(ฟันันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เพื่อรอไปแลกเป็นหุ้นใหม่หลังการควบรวมกับ BECL โดยคาด BMCL ผลประกอบการ 3Q15 จะขาดทุนสุทธิ 137 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่ขาดทุน 128 ล้านบาท แต่ดีขึ้นจาก 3Q14 ที่ขาดทุน 159 ล้านบาทจากจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันที่เติบโตที่ดีเยี่ยม +8.4% Y-Y เป็น 267,000 คน/วัน และค่าโดยสารเฉลี่ยต่อเที่ยวที่ +1.4% Y-Y เป็น 24.50 บาท แนวโน้มผลประกอบการจะค่อยๆดีขึ้นในไตรมาสถัดไป และคาดทั้งปีนี้ขาดทุนสุทธิ 592 ล้านบาทและลดลงเหลือขาดทุน 328 ล้านบาทในปีหน้า ประเมินราคาเป้าหมายปีนี้ 2.40 บาท