นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ CPN เปิดเผยว่า เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ เป็นโมเดลใหม่หลังจากรีเฟรชแบรนด์"เซ็นทรัลเฟสติวัล"จากเดิมที่เป็นแบรนด์ฮอลิเดย์สปิริตตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยวในเชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา สมุย และภูเก็ต ให้เปลี่ยนมาเป็นแบรนด์ที่มีมิติของความสดใหม่สร้างความรู้สึกผ่อนคลายที่ต่อไปจะไม่จำกัดแต่ในเมืองท่องเที่ยว แต่จะรวมถึงในกรุงเทพและจังหวัดอื่นๆ ด้วย
ทั้งนี้ "เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์"ตั้งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพการเติบโตสูง สามารถตอบสนองการขยายตัวของกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก ตั้งเป้าผู้เข้ามาใช้บริการในวันธรรมดาจำนวน 4-5 หมื่นคนต่อวัน และช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ราว 6 หมื่นคน/วัน โดยประเมินว่าจะทำยอดขายติด TOP 10 ของศูนย์การค้าทั้งหมดในเครือ CPN โดยยอดจำหน่ายอาจจะต่ำกว่าเซ็นทรัลลาดพร้าวเล็กน้อย
"ซีพีเอ็น ลงทุนระยะยาว วางแผนระยะยาว ช่วงนี้ผู้บริโภคอาจระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่ก็ยังกลับมาเหมือนเดิมแน่นอน ปัญหาเศรษฐกิจมีผลในช่วงสั้น แต่ระยะยาวไม่มีผล ซึ่ง"เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์"คอนเซ็ปต์รูปแบบใหม่ แตกต่างจากศูนย์อื่น และใหญ่สุดกรุงเทพฝั่งตะวันออก"นางสาววัลยา กล่าว
เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ ออกแบบโดยยึดแนวทางมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงาน (LEED) คำนึงถึงทิศทางลมแสงธรรมชาติ ซึ่งนับเป็นความท้าทายใหม่ของซีพีเอ็น และเป็นครั้งแรกของศูนย์การการค้าในประเทศไทย ที่มีโซนซึ่งติดตั้งระบบสร้างโอโซน เพิ่มออกซิเจน ทำให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้น เพื่อความสดชื่น ผ่อนคลายจากมลภาวะ เทียบเคียงบรรยากาศที่เขาใหญ่
นอกจากนั้น CPN จึงได้เชิญอาร์ติสต์ชื่อดังระดับโลก อีบอย หรือฉายา ก๊อดฟาเธอร์ออฟพิกเซล (eBoy- Godfathers of Pixel) กลุ่มศิลปินซึ่งมีรูปแบบผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ มาร่วมตกแต่ง สร้างความสดใหม่ให้กับวงการรีเทลและตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาศูนย์การค้าชั้นนำของประเทศและระดับภูมิภาค
นางสาววัลยา กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนงานจะเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 59 จะเปิดศูนย์การค้าแห่งใหม่ 2 แห่ง ซึ่งต้นปีจะเปิดที่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นแห่งที่ 30 และปลายปี 59 จะเปิดที่ จ.นครราชสีมา เป็นแห่งที่ 31 ส่วนในปี 60 จะเปิดศูนย์การค้าแห่งที่ 2 ใน จ.ภูเก็ต นับเป็นศูนย์การค้าในเครือเป็นลำดับที่ 32 พร้อมกันนั้น ในปีหน้าบริษัทจะเริ่มรีเฟรชแบรด์เซ็นทรัลเฟสติวัลทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ตั้งงบลงทุนแต่ละแห่งราว 5-10 ล้านบาท เพื่อให้ทันสมัย
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้หลักของ CPN จะมาจากศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลพลาซาลาดพร้าว, เซ็นทรัลพลาซาปิ่นเกล้า, เซ็นทรัลพลาซาพระราม 2 และ เซ็นทรัล พลาซาบางนา ตามลำดับ
สำหรับผลประกอบการในปีนี้ นางวัลยา กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.47 หมื่นล้านบาท โดยตั้งแต่กลางปีเป็นต้นมากำลังซื้อปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ แต่ในช่วงเดือน ก.ย.อาจชะลอไปบ้าง แต่เชื่อว่าเดือน ต.ค.จนถึงปลายปีก็น่าจะคึกคัก เห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และโรงแรมต่าง ๆ มียอดจองเข้ามาเต็มแล้ว
ขณะนี้บริษัทสำรองงบลงทุนด้านการตลาดก้อนใหญ่ไว้ 300 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงไตรมาส 4/58 โดยเฉพาะการจัดงานเค้าท์ดาวน์รับเทศกาลปีใหม่ เทศกาลของขวัญ รวมทั้งจัดต้นคริสต์มาสและลานเบียร์
"ยอดการใช้จ่าย (Spending) เดือน ก.ย.ตก แต่จะไปขึ้นช่วงปลายปี ในแง่รายได้ CPN ยังเติบโตอยู่ ไม่ตก และไตรมาส 4 มีงบฯกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยอัดเข้ามาอีกก็คาดรายได้จะเข้าเป้าหมายโต 10% ซึ่งเนเจอร์ของค้าปลีกไตรมาส 4 จะพีคที่สุด ทราฟฟิกของศูนย์การค้าของซีพีเอ็นไม่ลดลง แม้ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะเราเป็นที่เติมเต็มของผู้เข้ามาเดินได้ ทั้งมาอัพเดทเทรน มานัดเจอกัน"นางสาววัลยา กล่าว