"เราไม่เน้นการเร่งขยายฐานลูกค้าบัตรใหม่มากนัก ปีนี้จำนวนบัตรเครดิตใหม่อาจไม่ได้ตามเป้า แต่ประมาณ 3 แสนใบก็ดีแล้ว ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แต่เรามาเน้นการบริหารจัดการพอร์ตให้มีคุณภาพ เน้นการส่งเสริมการตลาดที่ช่วยให้เกิดการใช้จ่ายผ่านบัตร ซึ่งเราอยากแข่งกับตัวเองมากกว่า แม้ว่าการแข่งขันธุรกิจบัตรเครดิตในตอนนี้จะเริ่มรุนแรงมาก เพราะมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาในตลาด และอัดเคมเปญแรงๆ"นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-ธุรกิจบัตรเครดิต ของ KTC กล่าว
นางพิทยา กล่าวว่า สาเหตุที่บริษัทปรับลดเป้าหมายบัตรใหม่ในปีนี้ เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเป็นหลัก ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการสมัครบัตร ประกอบกับบริษัทเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องการขอดูเอกสารและตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ ทำให้การอนุมัติยากขึ้นเล็กน้อย ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนใหม่กว่า 2 แสนใบ ขณะที่คาดว่าสิ้นปีจะมีจำนวนสมาชิกบัตรเครดิตประมาณ 1.8 ล้านใบ จากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1.75 ล้านใบ
ส่วนยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) ในปีนี้ ยังมั่นใจสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่คาดว่าจะเติบโต 15% จากปีที่แล้ว หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาท โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโตแล้ว 12% หรือคิดเป็นเม็ดเงิน 1.05 แสนล้านบาท เติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมบัตรเครดิตที่โตเฉลี่ย 8%
ทั้งนี้ การเติบโตของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทมาจากการเพิ่มสัดส่วนลูกค้าระดับบนที่มียอดใช้จ่ายสูงเฉลี่ยมากกว่า 40,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นการกระจายสัดส่วนในภาวะที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ดี ซึ่งลูกค้าระดับบนจะมีความสามารถในการซื้อมากกว่าลูกค้าระดับกลาง-ล่างที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัท ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าระดับกลาง-ล่างลดลงมาเล็กน้อยอยู่ที่ 78% จากเดิมที่ 80% และลูกค้าระดับบนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 22% จากเดิม 20%
นอกจากนี้ บริษัทมองว่ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนที่เดือนพฤศจิกายน 57 เติบโต 11% และเดือนธันวาคมเติบโต 14% เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลที่มีการจับจ่ายที่สูงขึ้น ขณะที่ลูกค้ายังมีกำลังซื้ออยู่แต่ในช่วงที่ผ่านมาชะลอการใช้จ่ายลงไป ซึ่งบริษัทมองว่าลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะเริ่มใช้จ่ายมากขึ้นในช่วง 2 เดือนสุดท้าย และมีผลทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในช่วง 2 เดือนสุดท้ายเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนและทำให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านยอด NPL ปีนี้คาดว่าจะยังคงไว้ที่ 1.4% และคาดว่าระดับ NPL ในไตรมาส 3/58 จะใกล้เคียงกับ NPL ไตรมาส 2/58 ที่ 1.4% เช่นกัน
สำหรับเป้าหมายในปีหน้า บริษัทจะเพิ่มจำนวนบัตรใหม่อีก 4 แสนใบ และตั้งเป้ายอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 15% จากปีนี้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในปีหน้าจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้น