(เพิ่มเติม) KBANK เผยกำไร Q3/58 ลดลง 11.86% จาก Q2/58 หลังตั้งสำรองฯเพิ่ม-รายได้ลด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 20, 2015 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3/58 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2/58 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลง 11.86% จากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากในไตรมาสนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจำนวน 1,470 ล้านบาท รวมทั้งรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลงจำนวน 586 ล้านบาท หรือ 3.52% สำหรับ NIM อยู่ที่ระดับ 3.57% ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ลดลง โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 41.62%

ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 3/58 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 10,117 ล้านบาท ลดลง 19.17% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 58 โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 33,997 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 6.05% เนื่องจากในงวดนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจำนวน 7,193 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 1,820 ล้านบาท หรือ 2.97% โดยอัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.66% ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 6,393 ล้านบาท หรือ 15.38% เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ และรายได้จากผลิตภัณฑ์ตลาดเงินและตลาดทุนที่เพิ่มขึ้น สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่นๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Efficiency ratio) ในงวดนี้อยู่ที่ระดับ 42.1%

ณ วันที่ 30 ก.ย.58 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 2,538,678 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 26,955 ล้านบาท หรือ 1.07% และเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2557 จำนวน 149,541 ล้านบาท หรือ 6.26% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงินสุทธิและเงินให้สินเชื่อ โดยมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,577,781 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 57 จำนวน 50,701 ล้านบาท หรือ 3.32%

ขณะที่เงินรับฝากมีจำนวน 1,677,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 57 จำนวน 47,177 ล้านบาท หรือ 2.89% โดยเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 30 ก.ย.58 อยู่ที่ระดับ 2.62% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 57 อยู่ที่ระดับ 2.39% และ 2.24% ตามลำดับ โดยในงวดนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงชะลอตัว โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 30 ก.ย.58 อยู่ที่ระดับ 131.63% ขณะที่ไตรมาสก่อนและสิ้นปี 57 อยู่ที่ระดับ 138.13% และ 141.38% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ณ วันที่ 30 ก.ย.58 อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III อยู่ที่ 17.73% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 14.61%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ