สัปดาห์นี้รอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติมหรือมีการขยายระยะ เวลาโครงการซื้อสินทรัพย์หรือไม่ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่มี น้ำหนักมากในตลาดหุ้นบ้านเรา ส่วนเศรษฐกิจจีนยังต้องตามต่อไปแม้เมื่อวานตัวเลข GDP ออกมาดีกว่าคาด เนื่องจากยังคาดว่าจีน จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมออกมา
ทิศทางพรุ่งนี้คงยังไม่ไปไหนไกลแต่ดาวน์ไซด์จำกัด มองกรอบการเคลื่อนไหวผันผวน ให้แนวรับ 910 จุด แนวต้าน 923 จุด กลยุทธ์เก็งกำไรในกรอบ หากปรับลงมาให้เปิดสถานะ long และรอขายทำกำไรที่แนวต้าน ถ้าไม่ผ่านให้ short
ขณะที่ บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส ระบุว่า ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,167.88- 1,175.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,700 บาทต่อบาททองคำ โดยราคา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้า ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV15 อยู่ที่ 19,750 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท
ทั้งนี้ หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดย หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,160-1,157 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนว ต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดู บริเวณ 1,157 หรือ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคา หลุดแนวรับ 1,147 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์
ดัชนี SET 50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 915.72 จุด ลดง 1.10 จุด, -0.12%
ปริมาณ สถานะคงค้าง Total Market 152,885 1,074,418 Total Futures 152,432 1,062,502 SET50 Index 101,095 282,530 Sector Index - - Single Stock 46,234 745,279 Precious Metal 3,489 21,983 -GF10 3,224 19,158 -GF50 265 2,825 Curency 1,509 12,114 Energy 105 596 Interest Rate - - Total Options 453 11,916 Call 313 4,254 Put 140 7,662 สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน นักลงทุนสถาบัน นักลงทุนต่างชาติ นักลงทุนภายในประเทศ Futures -1,668 +346 +1,322 Options -86 -14 +100