"เจตาแบค"ยื่นไฟลิ่งเสนอขาย IPO 240 ล้านหุ้น เข้าตลาด mai ภายใน Q1/59

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 21, 2015 15:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด(APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ.เจตาแบค(GTB)เปิดเผยว่า วันนี้บริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน(ไฟลิ่ง)ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)และขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ พร้อมการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 240 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท

ทั้งนี้ GTB เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกำเนิดไอน้ำ(Steam Boiler) ระบบเผาไหม้(Combustion Engineering) งานวิศวกรรมพลังงานความร้อน(Thermal Energy Engineering) อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และงานบริการเกี่ยวกับเครื่องกำเนิดไอน้ำ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 240 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 960 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท โดยมีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 180 ล้านบาท

นายสมภพ เชื่อว่าหุ้น GTB จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากบริษัทต้องการระดมทุนไปใช้เพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานให้สามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมได้อย่างแข็งแกร่ง และช่วยส่งเสริมให้บริษัทวางแผนการขยายงานในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งที่ผ่านมา GTB มีการเติบโตต่อเนื่องตามอุตสาหกรรมทุกประเภทที่ต้องการใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และบริการที่เกิดจากความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของบริษัท ส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปีที่ผ่านมามีรายได้รวมรวมทั้งปี 962.29 ล้านบาท กำไรสุทธิ 49.73 ล้านบาท ขณะที่ 6 เดือนแรกของปี 58 บริษัทมีรายได้แล้วกว่า 412.90 ล้านบาท กำไรสุทธิ 24.63 ล้านบาท และยังมีงานที่ยังไม่ส่งมอบอยู่ระหว่างการดำเนินงานอีกจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่างานในมือ (Backlog) อีกประมาณ 427 ล้านบาท ทำให้คาดว่าผลงานในปีนี้จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา

ด้านนายสุชาติ มงคลอารีย์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GTB กล่าวว่า นอกจากบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อต่อยอดโอกาสการดำเนินงานทั้งปัจจุบันและในอนาคต รองรับความต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะ AEC จีน และเอเชียใต้ที่ยังมีความต้องการจำนวนมากแล้ว

บริษัทยังมุ่งมั่นที่จะวิจัยและพัฒนาสินค้า การพัฒนาโปรแกรมการออกแบบทางวิศวกรรมให้เหมาะสมกับธุรกิจของลูกค้าแต่ละประเภท ตลอดจนคำนึงถึงการผลิตพลังงานสะอาดจากพลังงานทดแทนเพื่อเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปอีกด้วย

“บริษัทมีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะ AEC ที่มีความต้องการงานด้านวิศวกรรมจากการขยายตัวของอุตสาหกรรมหลายๆประเภท โดยปัจจุบันบริษัทมีจำหน่ายไปต่างประเทศทั่วโลก อาทิ สิงคโปร์ มาเลเซีย ปากีสถาน บังคลาเทศ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรต เป็นต้น ซึ่งมองว่าหากบริษัทได้ต้นทุนทางการเงินที่มีศักยภาพ เช่น เงินที่ได้จากการระดมทุน เชื่อว่าจะยิ่งช่วยผลักดันให้การดำเนินงานของบริษัทเติบโตอย่างมีศักยภาพตามเป้าหมาย และช่วยให้สามารถแข่งขันในต่างประเทศได้อย่างแข็งแกร่ง"นายสุชาติ กล่าว

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ที่จะเติบโตมากกว่าจากปี 57 ที่มีรายได้รวม 962.29 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้ในประเทศ 80% และต่างประเทศ 20% ซึ่งในอนาคตหากบริษัทมีการขยายการจำหน่ายไปยังต่างประเทศมากขึ้นน่าจะส่งผลให้สัดส่วนรายได้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ