แม้ว่าบริษัทตัดสินใจเลื่อนเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม 3-4 โครงการใหม่ออกไปจากปลายปีนี้ ทำให้จำนวนโครงการใหม่ทั้งปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ 50-55 โครงการ เนื่องด้วยการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยืนยันว่าการชะลอเปิดโครงการคอนโดมิเนียมจะไม่กระทบยอดขายในปีนี้อย่างแน่นอน
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog)ราว 1.65 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ประกอบกับในไตรมาส 4/58 ก็ถือว่าเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด เมื่อเทียบกับทุกไตรมาสที่ผ่านมา โดยบริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการเพิ่มเติมอีก 10 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบ
"ปีนี้ยอดขาย-รายได้ น่าจะทะลุเป้า จากมาตรการภาครัฐที่เข้ามาหนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ และจาก Backlog รอโอนที่เหลืออยู่จนถึงสิ้นปีอีก 1.65 หมื่นล้านบาท รวมถึงจะมีการเปิดโครงการใหม่อีก 10 โครงการ ซึ่งน่าจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ"นายเลอศักดิ์ กล่าว
อนึ่ง มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ ประกอบไปด้วย การเพิ่มโอกาสให้ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาท/เดือนและถูกธนาคารพาณิชย์ปฏิเสธการปล่อยสินเชื่อซื้อบ้านสามารถขอกู้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)โดยมีวงเงินสินเชื่อรวมเบื้องต้น 1 หมื่นล้านบาทที่ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค 58- 31 ธ.ค. 59 รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจำนองอยู่ที่ 1% มาอยู่ที่ 0.01% ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึง 30 เม.ย.59 ขณะเดียวกันยังให้สิทธิผู้ที่ซื้อบ้านต่ำกว่า 3 ล้านบาทสามารถนำ 20% ของมูลค่าบ้านหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้เป็นเวลา 5 ปี
นายเลอศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงสุดท้ายของปี 58 บริษัทฯได้ออกแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อตอบรับมาตรการดังกล่าว คือ "โอกาสทองของคนรักบ้าน Pruksa Best Buy Moment" โดยมีโครงการทาวน์เฮาส์ บ้านเดี่ยว และคอนโดมิเนียม ที่เข้าร่วมรายการกว่า 170 โครงการ บนทำเลที่มีศักยภาพ ทุกโซน ทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 17,585 ยูนิต คิดเป็นมูลค่าถึง 54,670 ล้านบาท เพียงจองภายในวันที่ 31 ต.ค.58 ถึง 30 ธ.ค.58 และทำสัญญาภายในวันที่ 10 ม.ค.59
ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ชั้น คือ 1.รับสิทธิพิเศษหน้าโครงการตามเงื่อนไข เช่น ฟรีแอร์ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือส่วนลดพิเศษสูงสุด 200,000 ล้านบาท 2.รับส่วนลดพิเศษเพิ่มอีก 2% และ 3.รับสิทธิลุ้นรับรางวัลใหญ่รถยนต์ Mercedes Benz CLA 250 และ Honda HR-V รวม 6 รางวัล มูลค่ารวมราว 9 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากแคมเปญนี้ราว 2,000 ล้านบาท และจะรับรู้ภายในปีนี้ทั้งหมด