(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบที่แกว่งตัวเล็ง Sentiment บวกจากตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 26, 2015 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในกรอบที่แกว่งตัว เนื่องจากมี Sentiment บวกจากต่างประเทศ หลังจากที่จีนได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝากลง 0.25% และการประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB) ก็มีการส่งสัญญาณออกมาว่าอาจจะมีการซื้อสินทรัพย์เพิ่ม หรือเพิ่มระยะเวลาในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจในยุโรปฟื้นตัวขึ้นให้ได้ หลังจากที่ตัวเลขเงินเฟ้อออกมาไม่ค่อยดีนัก

ดังนั้น เมื่อมีทิศทางที่จะเพิ่มสภาพคล่องในระบบมากขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียดีดตัวขึ้นแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งตลาดหุ้นไทยปิดทำการ และเช้านี้ตลาดภูมิภาคก็ยังคงอยู่ในแดนบวกโดยรวม

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยอาจมีปัจจัยถ่วงจากการประกาศผลประกอบการของกลุ่มพลังงาน อย่างบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ที่มีผลประกอบการไตรมาส 3/58 ขาดทุนมาก และ outlook ราคาน้ำมันยังมีทิศทางที่ลดลง

สำหรับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในสัปดาห์นี้ก็ยังมีทิศทางที่เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดีจะต้องติดตามดูการประชุมด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(23 ต.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,646.70 จุด เพิ่มขึ้น 157.54 จุด(+0.90%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,031.86 จุด เพิ่มขึ้น 111.81 จุด(+2.27%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.15 จุด เพิ่มขึ้น 22.64 จุด(+1.10%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 210.83 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 36.22 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 271.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 33.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 9.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 23.85 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 58.25 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ต.ค.58) 1,416.14 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด(+0.02%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 268.44 จุด เมื่อวันที่ 22 ต.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 ต.ค.58) ปิดที่ 44.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 78 เซนต์ หรือ 1.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 ต.ค.58)ที่ 7.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิดวันนี้ 35.60 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอติดตามผลประชุมเฟด
  • ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 หรือช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 2 แสนล้านบาท จากวงเงินกู้ที่ตั้งไว้ 3.9 แสนล้านบาท หรือมากกว่า 50% ของวงเงินทั้งหมด เพื่อใช้จ่ายในการลงทุนโครงการต่างๆ
  • รฟม.เดินหน้าแผนรื้อสะพานรัชโยธิน เพื่อก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย สีเขียวเหนือ ดีเดย์ ช่วงเม.ย 2559 หลัง กทม.อนุญาตให้เข้าพื้นที่บริเวณฯ แยกรัชโยธินแล้ว เร่งส่งแผนจัดการจราจร ประสาน บช.น. และทุกภาคเพื่อส่วนลดผลกระทบ
  • อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตได้เตรียมพร้อมการเก็บภาษีรถยนต์ตามโครงสร้างภาษีใหม่ที่เก็บตามการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้เวลาผู้ประกอบการได้เตรียมการเป็นเวลา 3 ปี โดยอัตราภาษีใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป ซึ่งกรมสรรพากรจะออกประกาศของกรมในเรื่องดังกล่าวในเดือนหน้า
  • รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงกรณีสำนักงานบริหารการบินพลเรือนแห่งสหรัฐอเมริกา(FAA) จะดินทางเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ของกรมการบินพลเรือนไทย(บพ.) วันที่ 26-28 ต.ค.58 ว่า ขณะนี้มีความพร้อมรับการตรวจสอบปัญหาทั้ง 35 ข้อ ที่ถูก FAA ตั้งโจทย์ไว้แล้ว ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาตามแผนที่ได้เสนอกับองค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ไปหมดแล้ว รวมถึงประสานกับกองทัพอากาศเข้ามาช่วยเสริมขีดความสามารถด้านบุคลากร
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ มั่นใจมาตรการภาครัฐดันธุรกิจโตแน่ ขณะที่ 9 เดือนแรก โครงการเปิดใหม่-ยอดขายลดลงไป 10% ด้าน "ศุภาลัย" ปักธงแนวราบพื้นที่โคราชครั้งแรก

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AOT(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า 360 บาท ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารยังคงเพิ่มขึ้น(กรกฎาคม – กันยายน) 23% และ 25% YoY ใน 4Q15 แม้ว่าจะมีเหตุการณ์ระเบิด ปริมาณผู้โดยสารในประเทศเติบโตสูงกว่าปริมาณผู้โดยสารนอกประเทศ 2% โดยเฉลี่ย โดยคาดกำไรสุทธิที่ 3.436 พันล้านบาทใน 4Q15 เพิ่มขึ้น 51% YoY คิดเป็น การเติบโต 34% YoY ของประมาณการในปีนี้ สนับสนุนจากการฟื้นตัวของผู้โดยสาร แต่ลดลง 16% QoQ กดดันจากโบนัสของพนักงานและค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
  • TOP(แอพเพิล เวลธ์)"ซื้อ"เป้า 62 บาท คาดกลับมา Turnaround บวกกับ Dividend Yield ยังน่าพอใจ 4.7% คาด 3Q58 จะขาดทุนสุทธิราว 2.4 พันล้านบาท เทียบกับงวด 2Q58 ที่มีกำไรสุทธิ 6.2 พันล้านบาท หลักๆเป็นผลบันทึกขาดทุนสต็อกน้ำมัน และบาทอ่อนค่าส่งให้มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 2.6 พันล้านบาท แต่แนวโน้ม 4Q58 จะพลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิจากราคาน้ำมันงวด 4Q58 เริ่มทรงตัว ทำให้ผลกระทบจากสต็อกน้ำมันมีไม่มากนัก
  • TISCO(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 47 บาท ด้วยการบริหารภายในของบริษัทฯ TISCO จึงสามารถรับมือการกับวิกฤต SSI ได้ดีกว่าที่คาด จึงปรับประมาณการกำไรขึ้น 7% ในปี 2015-18F ด้วยปัจจัยกดดันกรณี SSI บรรเทาลง และสินเชื่อแตะจุดต่ำสุดแล้ว กำไรของ TISCO จึงน่าจะฟื้นตัว
  • BBL(เคเคเทรด)เป้า 208 บาท Valuation ไม่แพง ซื้อขายบริเวณ P/BV 1 เท่า, ความผันผวนของราคาหุ้นต่ำ เพราะผ่านการรายงานผลประกอบการ 3Q58 แล้ว
  • SYNTEC(เคเคเทรด)เป้า 4 บาท คาดผลประกอบการ 3Q58 เติบโตดี(+13%QoQ, +1% YoY), Valuation ไม่แพง ปัจจุบันซื้อขายที่ P/E 11 เท่า ถูกกว่าหุ้นรับเหมาฯขนาดใหญ่ที่เทรดบริเวณ 20-30 เท่า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ