บล.โกลเบล็ก ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ถือ"หุ้น บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 93 บาท กำไรสุทธิ 9 เดือนของ PTTEP มีผลขาดทุนสุทธิกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท หากไม่รวมค่าใช้จ่ายในการด้อยค่าของสินทรัพย์บริษัทจะมีกำไรปกติ 9 เดือนที่ 1.36 หมื่นล้านบาทซึ่งคิดเป็นเพียง 50% ของประมาณ
จึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 58 ลงเหลือ 16,775 ล้านบาท และปรับลดกำไรปกติปี 59 สู่ 24,154 ล้านบาท ซึ่งลดลง 37% และ 28% ตามลำดับ เมื่อรวมผลขาดทุนจากการด้อยค่าจะทำให้ปี 58 ขาดทุนอยู่ที่ราว 33,116 ล้านบาท โดยในไตรมาส 4 โดยคาดว่ากำไรของ PTTEP ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 เนื่องจากคาดว่าจะไม่มีขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวขึ้นส่งผลให้กำไรจากธุรกิจสำรวจและผลิตปรับตัวดีขึ้น และค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าส่งผลให้ค่าใช้จ่ายทางภาษีของ PTTEP จะไม่สูงเท่าไตรมาส 3 ซึ่งจะเป็นตัวหนุนกำไรสุทธิเพิ่มเติม
PTTEP แจ้งขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3 ที่ 46,212 ล้านบาทซึ่งต่ำกว่าที่คาด 1,882% เนื่องจากมีรายการขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์กว่า 4.98 หมื่นล้านบาทใน 5 โครงการที่ลงทุนได้แก่โครงการออยล์แซนด์ โครงการมอนทารา โครงการเบญมาศ โครงการนาทูน่า และโครงการในประเทศโอมาน อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจของ PTTEP ยังมีผลประกอบการเป็นบวกเล็กน้อย เนื่องจากมีปริมาณขายปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นราว 7,000 BOED จากไตรมาส 2 สู่ระดับ 332,203 BOED เพราะโครงการซอติก้าในพม่าที่ผลิตเต็มกำลังการผลิตในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยปรับตัวลง 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลตามราคาน้ำมันดิบสู่ระดับ 44.55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในไตรมาส 3 ทางด้านต้นทุนการผลิตปิโตรเลียมเฉลี่ยในไตรมาส 3 ปรับตัวลงจากไตรมาสที่ผ่านมา กว่า 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 38.51 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามค่าเสื่อมราคาที่ลดลงเพราะมีการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งมอนทารา และเป็นผลจากการควบคุมค่าใช้จ่ายของทางบริษัท