เอเชียเวลท์ชี้หุ้นไทยรับปัจจัยบวกต่างประเทศดันตลาดปีหน้าฟื้นตามศก.โลก

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 26, 2015 11:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ มีปัจจัยบวกเข้ามา จากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ และลดอัตราเงินสดสำรองทางการลงไปอีก ซึ่งเหนือความคาดการณ์ของตลาด ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นบวก และประธานธนาคารยุโรป (ECB) ได้ให้นโยบายเชิงบวกในการที่จะขยายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า ECB จะขยาย QE ไปอีกในช่วงไตรมาส 4 นี้ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกใหญ่ทั้งสองปัจจัย

ด้านตัวเลขทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ทั้งตัวเลข PMI ของสหรัฐฯ ตัวเลข Composite PMI ของยูโรโซน และตัวเลข Manufacturing PMI ของญี่ปุ่น ในขณะที่ ยังมีลุ้นในวันที่ 27-28 ตุลาคมนี้ ให้จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งล่าสุดตลาดคาดว่าไม่น่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลัง ๆ ออกมาดี อาจทำให้ Fed ตัดสินใจยากขึ้นว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีนี้หรือไม่ และปิดท้ายสัปดาห์นี้ด้วยการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่น่าจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยรวมแล้วนโยบายธนาคารกลางเป็นปัจจัยบวกทั้งสัปดาห์

ด้านกลยุทธ์การลงทุนมองเป็นบวกสำหรับปีหน้า เพราะมาตรการต่าง ๆ ของธนาคารกลางหลักของโลกที่สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นบวก และปีหน้าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวชัดเจน ดังนั้น การลงทุนในหุ้นไทย แนะนำให้เน้นลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เช่น หุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว และหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับ Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ GUNKUL จากการที่ตัวบริษัทมีการขยายกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า และการก่อสร้างต่าง ๆ โดยเราคาดว่าไตรมาส 3 กำไรจะดีมาก โดยมองว่ากำไรจะมีขนาดใหญ่กว่าครึ่งปีแรก และกำไรไตรมาส 4 จะยังคงดีอยู่ หลังจากที่สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 87 เมกะวัตต์ เสร็จ ซึ่งจะเป็นตัวผลักดันกำไรให้กับ GUNKUL อย่างชัดเจน (GUNKUL ถือหุ้น 67%) และมองไปในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าจากปัจจุบันกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าในส่วนที่บริษัทถือหุ้นอยู่ที่ประมาณ 44 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าในปี 2016 กำลังผลิตจะโตขึ้นไปถึง 178 เมกะวัตต์ และปี 2017 เป็น 322 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้การเติบโตของกำไรบริษัท (EPS growth) นับจากนี้ไป จะเติบโตทบต้นเฉลี่ย 40% ต่อปี และปีนี้คาดว่ากำไรจะเติบโตถึง 49% ในทางเทคนิคมีสัญญาณที่แข็งแกร่ง เพราะเกิดสัญญาซื้อทั้งรายวัน และรายสัปดาห์ ราคาเป้าหมายปีนี้ที่ 32.30 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ