สำหรับโครงการ"เดอะ ไลน์ ราชเทวี"ที่จะมีการทำพรีเซลล์ในวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.นี้ จะสามารถปิดการขายได้ทั้งโครงการที่มีมูลค่า 2.9 พันล้านบาท
นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาคอนโดมิเนียม ของ SIRI คาดว่ายอดขายพรีเซลล์ของบริษัทตั้งแต่ต้นปีจนถึง ณ สิ้นเดือนตุลาคมนี้ จะทำได้ 2.5 หมื่นล้านบาท ทำให้มั่นใจว่ายอดขายพรีเซลล์ทั้งปีจะทำได้ตามเป้าที่ 3.3 หมื่นล้านบาท โดยได้ปัจจัยหนุนจาก มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่จะส่งผลให้บริษัทสามารถระบายสต็อกออกไปได้ ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสต็อกคิดเป็นมูลค่า 9 พันล้านบาท ประกอบกับจะเปิดขายพรีเซลล์ของโครงการคอนโดมิเนียมเดอะไลน์ ราชเทวี ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายโครงการดังกล่าวได้ 100% หรือปิดการขายได้ภายใน 2 วันพรีเซลล์
"ยอดขายพรีเซลล์ยังมั่นใจตามเป้า 3.3 หมื่นล้านบาท มาตรการรัฐก็เข้ามาช่วยของเราได้นิดหน่อย แล้วก็เดอะไลน์ ราชเทวีก็จะเป็นอีกไฮไลท์ที่จะสร้างยอดขายให้เราได้ เพราะเราตั้งเป้าขายหมด 2 วัน 100% ซึ่งเราเปิดขายทั้งในกรุงเทพฯ และฮ่องกงในวันเดียวกัน เราเอาไปขายที่ฮ่องกงประมาณ 50 ยูนิต ก็คาดว่าจะได้ผลตอบรับที่ดีเหมือนที่ผ่านมา ตอนนี้ยอดขายของต่างประเทศเราทำได้แล้ว 1.9 พันล้านบาท จากเป้า 3 พันล้านบาท"นายอุทัย กล่าว
ทั้งนี้โครงการเดอะไลน์ ราชเทวี เป็นโครงการร่วมทุนระหว่า SIRI และบมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTS) มูลค่าโครงการ 2.9 พันล้านบาท เป็นอาคารพักอาศัยสูง 38 ชั้น บนเนื้อที่ 1.5 ไร่ ห่างจากสถานีบีทีเอสราชเทวี 220 เมตร มีจำนวนห้องพัก 231 ยูนิต ประกอบด้วยห้องพักแบบสตูดิโอ 27.75 ตารางเมตร จนถึงเพ้นเฮาส์ 119.50 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 6.9 ล้านบาท ปัจจุบันการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ได้ผ่านความเห็นชอบแล้ว จะเริ่มก่อสร้างเร็วๆนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 61
นายอุทัย กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่ายอดขายรอโอน 3.6 หมื่นล้านบาท โดยจะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/58 ที่ 6-6.5 พันล้านบาท และส่งผลให้รายได้ปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 3.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงที่เหลือของปีบริษัทยังจะเปิดโครงการทั้งคอนโดมิเนียมและแนวราบอีก 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.86 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่าโครงการ 1.6 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการร่วมทุน 2 โครงการ และโครงการของบริษัทพัฒนาเอง 2 โครงการ ส่วนแนวราบอีก 5 โครงการ มูลค่า 2.6 พันล้านบาท
สำหรับยอดปฏิเสธสินเชื่อในปัจจุบันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 10% หลังบริษัทได้ร่วมกับสถาบันการเงินทำ Pre-approve ลูกค้าก่อนทำสัญญากู้จริง ทำให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อลดลง แม้ว่าสถาบันการเงินจะเข้มงวดมากขึ้นก็ตาม