แต่น่าจะเห็นแรงซื้อคืนเข้ามาที่หุ้นในกลุ่มแบงก์ เนื่องจากเมื่อวานนี้มีการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่าชาติ สอดคล้องกับที่เห็น Flow น่าจะกลับมาอีกระลอก โดยหุ้นในกลุ่มแบงก์เป็นเป้าหมายสำคัญ
ส่วนตัวเลขการส่งออกของไทยที่ออกมาติดลบแรงน่าจะทำให้เห็นมาตรการภาครัฐฯเข้มข้นมากขึ้น และในวันนี้ก็จะมีการประชุม ครม.เชื่อว่าคมนาคมคงจะเสนอความคืบหน้าเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการโครงการต่าง ๆ
ด้านปัจจัยจากต่างประเทศให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)และธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) รวมถึงติดตามการประกาศผลประกอบการของ Apple คืนนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,417 จุด ส่วนแนวต้าน 1,428 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(26 ต.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,623.05 จุด ลดลง 23.65 จุด(-0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,034.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.84 จุด(+0.06%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,071.18 จุด ลดลง 3.97 จุด(-0.19%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 14.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 20.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 63.13 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 21.36 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.87 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.22 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(26 ต.ค.58) 1,424.16 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด(+0.57%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,211.30 จุด เมื่อวันที่ 26 ต.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(26 ต.ค.58) ปิดที่ 43.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 62 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(26 ต.ค.58)ที่ 7.29 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 35.47/48 แข็งค่าเล็กน้อย คาดปริมาณซื้อขายเบาบางนลท.รอดูท่าที FED
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ การค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยยอดการส่งออกของไทยเดือน ก.ย. 2558 ว่า มีมูลค่า 1.88 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.51% เทียบกับเดือน ก.ย. 2557 ถือเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ในปีนี้ ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 1.60 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ
- นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า การที่กระทรวงการคลังเตรียมกู้เงิน 2 แสนล้านบาทในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 หรือระหว่าง ต.ค.-ธ.ค.นี้ ไม่กระทบกับสภาพคล่องในระบบให้ตึงตัว ถือเป็นช่วงที่เหมาะสมในการออกพันธบัตรรัฐบาล เพราะอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับต่ำ ธนาคารปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง ทำให้สภาพคล่องในระบบมีอยู่มาก
- แบงก์ชาติย้ำเงินบาทยังมีเสถียรภาพ แม้ธนาคารกลางยุโรป และจีนผ่อนคลายนโยบายการเงิน จับตาการประชุม FOMC-BOJ ภายในสัปดาห์นี้ ระบุตลาดคาดถ้อยแถลง ECB ยังกังวลแนวโน้มการเติบโตเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และอาจกลับมาเป็นความเสี่ยงต่อกลุ่มยูโรโซนในระยะต่อไป ขณะที่นโยบายการเงินของจีนส่งผลให้สกุลเงินภูมิภาคอ่อนค่า
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการกระตุ้นการลงทุนให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายใน 2 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นมาตรการต่อจากการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก การเพิ่มรายได้ให้ผู้มีรายได้น้อย การเร่งลงทุนระดับตำบล และโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท
- ทอท.ยันสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ประหยัดงบเต็มที่แล้ว เซฟได้แค่ 7 พันล้าน เหลือ 5.5 หมื่นล้าน ยันมาตรฐานก่อสร้างไม่ลดลง ต้นปีหน้าตอกเสาเข็มเสร็จ ปี 2561 รองรับผู้โดยสารได้ 60 ล้านคน แก้ปัญหาคนล้นสนามบิน
*หุ้นเด่นวันนี้
- BJCHI(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 8.80 บาท ราคาหุ้นขณะนี้ซื้อขายด้วย P/E ปี 59 ที่ 8.2 เท่า ซึ่งถือว่าถูกและลดความเสี่ยงที่หุ้นจะปรับลง(downside risk) เพราะเป็น -1SD จากค่าเฉลี่ย P/E 2 ปีย้อนหลัง ข้อดีของหุ้นตัวนี้คือ มี Backlog ที่สูงและมีโอกาสได้งานอีกมาก สวนทางกับภาวะอุตสาหกรรมของน้ำมันและก๊าซที่เป็นวัฏจักรขาลง อีกทั้งมีงานที่เป็นศักยภาพของบริษัทที่จะได้รับสูงอีก 6.5 พันล้านบาท ที่จะช่วยผลักดันแหล่งที่มารายได้ของปี 59
- BCP(ทรีนีตี้)ซื้อ"ปรับเพิ่มประมาณการและราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 39 บาท มองเป็นหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปลอดภัยและมีความผันผวนของผลประกอบการค่อนข้างน้อย คาดผลประกอบการไตรมาส 3 ที่กำลังจะประกาศออกมาแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นทั้งหมด โดยมีประเด็นเชิงบวกระยะยาวได้แก่การนำบริษัท BCPG ซึ่งดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือกเข้าจดทะเบียนปีหน้า ซึ่งมองว่าจะเป็นการปลดล็อคมูลค่ากิจการพลังงานทางเลือกให้สะท้อนมูลค่าตลาดได้
- S11 (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 11 บาท คาดแนวโน้มกำไรไตรมาส 3 เติบโตต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY จากสินเชื่อที่มีแนวโน้มเติบโตท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว มองเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย และยังได้ประโยชน์จากแนวโน้มค่าใช้จ่ายทางการเงินที่คาดว่าจะลดลงต่อเนื่อง ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลงมามากจนทำให้ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเปรียบเทียบกับ Growth ปีหน้าในระดับประมาณ 20%
- GFPT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 12 บาท แนวโน้มกำไรสุทธิ 3Q15 +43% Q-Q และน่าจะเป็นกำไรสูงสุดของปีนี้ แต่มาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ขณะที่ปริมาณขายไก่ส่งออกและราคาไก่น่าจะทำได้เพียงทรงตัว Q-Q และคาดกำไรลด 44% Y-Y จากราคาไก่ที่ต่ำกว่าปีก่อนมากเพราะ Oversupply เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้ -47% Y-Y และ +27% Y-Y ในปีหน้าจากฐานต่ำ