โครงการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมือง ประกอบด้วยการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศ การปรับปรุงอาคารทางเชื่อมทางด้านทิศใต้และอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 5 ปัจจุบันงานตามโครงการแล้วเสร็จกว่าร้อยละ 90 โดย ทอท.จะเร่งรัดการการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับโครงสร้างหลักให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พ.ย.58
ทอท.ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานดำเนินงานเตรียมความพร้อมปฏิบัติการและโยกย้ายการปฏิบัติงานบางส่วนไปยังอาคาร 2 เพื่อให้การดำเนินงานเตรียมความพร้อมปฏิบัติการ และการโยกย้ายการปฏิบัติงานบางส่วนไปยังอาคาร 2 ทดม.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามข้อกำหนดขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
นายนิตินัย กล่าวว่า ทอท.คาดว่าจะเชิญสายการบินและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสร้างความคุ้นเคยระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย.58 จากนั้นจะทำการทดสอบระบบร่วมโดยพนักงาน ทอท.พนักงานสายการบินและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย.58 และจะประเมินการทดสอบระบบทุกระบบเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่ง ทดม.จะมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 18.5 ล้านคนต่อปี เป็น 30 ล้านคนต่อปี
ส่วนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งมีการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่ หลุมจอดอากาศยาน 10 หลุมจอด และมีการก่อสร้างสะพานเทียบเครื่องบิน 4 หลุมจอด ระบบเติมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานทางท่อ และระบบสาธารณูปโภคที่เกี่ยวข้องนั้น ขณะนี้โครงการมีความคืบหน้าร้อยละ 85 ในขณะเดียวกัน ทอท.ได้มีการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ
ทอท.แต่งตั้งคณะทำงานเตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร ทภก.หลังใหม่ ซึ่งจะมีการทยอยทดสอบแต่ละระบบ (Individual Testing) ในเดือน พ.ย.58 กำหนดทดสอบทุกระบบหลัก (Testing and Commissioning) ในเดือน ธ.ค.58 และในเดือน ม.ค.59-13 ก.พ.59 เป็นการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 1) เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการแบบไม่เต็มรูปแบบ (Soft Opening) เที่ยวบินแรกในวันที่ 14 ก.พ.59 หลังจากนั้น จะมีการทดสอบทุกระบบร่วมกัน (Trial Phase 2) อีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าหากมีการย้ายเที่ยวบินระหว่างประเทศไปให้บริการยังอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศหลังใหม่จะมีความสมบูรณ์และให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการแบบเต็มรูปแบบได้ในเดือน พ.ค.59 ซึ่งท่าอากาศยานภูเก็ตจะมีศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 6.5 ล้านคนต่อปี เป็น 12.5 ล้านคนต่อปี
นอกจากนี้แล้ว ทอท.ได้มีแผนการตรวจสอบมาตรฐานท่าอากาศยานเพื่อรับการตรวจสอบจากภาครัฐ โดยมีแผนรวบรวมข้อมูล เช่น แผนผังการปรับปรุง SOP (Standard of Procedures) และอื่นๆ เพื่อส่งให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยตรวจสอบมาตรฐานด้านการรักษาความปลอดภัย การตรวจสอบมาตรฐานด้านสิ่งอำนวยความสะดวกในการเดินอากาศ การตรวจสอบมาตรฐานด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อม ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบไปพร้อมกับระบบงานต่างๆ ที่แล้วเสร็จก่อนตามลำดับ นอกจากนั้น ทอท.จะจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า ร้านอาหาร และการบริการที่หลากหลายเพื่อความพึงพอใจของผู้ใช้บริการท่าอากาศยานอีกด้วย