อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นที่ผ่านมามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาบ้าง แม้ว่าระหว่างทางยังมีความผันผวนจากทั้งปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยปัจจัยในประเทศที่น่าสนใจ คือ การประกาศผลดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน โดยกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มแรก พบว่าตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL)อยู่ในระดับสูง แต่ยังเชื่อว่าภาคธนาคารแข็งแกร่งเพียงพอที่จะดูแล NPLได้ เพราะที่ผ่านมาได้รตั้งสำรองหนี้ดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว
นางเกศรา กล่าว่า ในปีหน้าคาดว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนจะขยายตัวได้ดี เป็นไปตามคาดการณ์เศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย และการลงทุนของภาครัฐ ประกอบกับ ตลาดคาดภาคการท่องเที่ยวที่เติบโต30% ขณะเดียวกัน ตลท.ได้ออกไปทำโรดโชว์ข้อมูลให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ได้แก่ สหรัฐและตะวันออกกลางยิ่งสะท้อนว่าจากพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่เข้มแข็งช่วยให้ไทยยังมีความน่าสนใจในการลงทุน
"ปีหน้าผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนจะดีขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะดีกว่าปีนี้ แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตดีขึ้น แต่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนนั้น 45% ของรายได้มาจากต่างชาติ ดังนั้นจึงต้องจับตาดูปัจจัยภายนอกด้วย เพราะอาจจะมีผลกระทบต่อผลการดำเนินได้ แต่ที่ผ่านมาบริษัทจดทะเบียน มีความรอบคอบ และมีการกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศค่อนข้างมาก ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทอย่างแน่นอน"นางเกศรา กล่าว
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำ การลงทุนในปีหน้า ควรเน้นลงทุนระยะยาว เพราะระยะสั้นอาจเจอความผันผวนทางข่าวสารต่างๆ เข้ามากดดัน