ขณะที่เจรจากับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ 2-3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปว่าจะซื้อกิจการหรือร่วมทุนในปีนี้อย่างน้อย 1 ราย ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต รวมถึงยังได้เจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในกัมพูชา 2 ราย เพื่อเตรียมรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศดังกล่าวด้วย เนื่องจากมองเห็นโอกาสที่ดีในการลงทุน หลังแนวโน้มเศรษฐกิจในกัมพูชาเติบโตดี อย่างไรก็ตามบริษัทไม่สามารถระบุช่วงเวลาว่าจะเห็นความชัดเจนในการลงทุนเมื่อใด
ส่วนการพัฒนาโครงการใหม่ของบริษัทขณะนี้ยังไม่ได้วางแผน แต่จะทยอยขายโครงการเก่าและโครงการที่ระหว่างการพัฒนาไปก่อน โดยปัจจุบันมีโครงการในมือที่มีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นโครงการเก่า 13 โครงการ มีมูลค่าโครงการเหลือขาย 300-400 ล้านบาท และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเปิดการขาย 14 โครงการ มูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาท
สำหรับแผนการทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นของตนเองนั้น ยืนยันว่าจะทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นให้เป็นเกณฑ์ที่กำหนดคือต่ำกว่า 25% ซึ่งจะทยอยขายหุ้นออกในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยไม่ได้มีการหานักลงทุนอื่นมาถือหุ้นแต่อย่างใด
"ผมก็จะทยอยลดสัดส่วนการถือหุ้นไปเรื่อยๆให้เป็นไปตามเกณฑ์ต่ำกว่า 25% แต่จะเป็นการขายหุ้นออกบนกระดานปกติ ไม่ได้มีการหาคนมาถือ ตอนนี้ถือเกินกว่าเกณฑ์ก็ยังต้องเสียค่าปรับตามปกติทุกวัน"นายภัทรภพ กล่าว
อนึ่ง ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ต.ค.58 นายภัทรภพ คงเหลือสัดส่วนถือหุ้นใน KC จำนวน 43.35%