"ไตรมาส 4 นี้ เราก็จะออกสินค้ากระเบื้องใหม่ ที่มีแผ่นใหญ่และให้มาร์จิ้นสูงออกมาขาย เพื่อทำให้กำไรเราโตขึ้นแม้ว่ายอดขายเราจะหดตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งกระเบื้องออกไป"นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวว่า รายได้ที่ลดลงในปีนี้เป็นผลจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว ทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อสินค้ากระเบื้องของบริษัทลง โดยเฉพาะรายได้ไตรมาส 3/58 ที่จะออกมานั้นคาดว่าจะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้การที่ลูกค้าชะลอสั่งซื้อแผ่นกระเบื้องของบริษัทลงไปนั้น ส่งผลกระทบต่อการผลิตของสินค้าในโรงงานของบริษัทลดลงมาอยู่ที่ 5-6 ล้านตารางเมตร/ปี หรือคิดเป็น 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมด จากปกติจะมีการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 6-7 ล้านตารางเมตร/ปี
ดังนั้น บริษัทจึงยังไม่มีแผนการลงทุนขยายโรงงานแห่งใหม่ แต่จะไปเน้นการหาลูกค้าที่ทำสัญญาระยะยาวมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของผลกระทบของยอดขาย และสามารถช่วยเพิ่มปริมาณการขายใหม่แก่บริษัทได้ในระยะยาว อย่างเช่น การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับบมจ.เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ในการให้ RCI เป็นผู้จัดหาสินค้าและกระจายสินค้าให้
ส่วนการเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศนั้น บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศเป็น 5% ในปี 59 จากปัจจุบันอยู่ที่ 3% ด้วยการรุกขยายตลาดในกลุ่ม CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมาร์และเวียดนามมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทได้ส่งออกแผ่นกระเบื้องไปขายในประเทศเมียนมาร์ ไต้หวัน และญี่ปุ่น