นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กรรมการผู้จัดการ อิมแพ็คฯ เปิดเผยว่า แม้ปีนี้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะมีความผันผวนถือเป็นช่วงขาลงของหลายๆธุรกิจ แต่สำหรับธุรกิจเอฟแอนด์บี อิมแพ็ค ยังคงได้รับการตอบรับที่ดี จากลูกค้าโดยเฉพาะกลุ่มจัดงานแต่งงาน ปาร์ตี้องค์กร และบริการจั้ดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งมียอดจองช่วงส่งท้ายปลายปีต่อเนื่องต้นปีหน้าทยอยเข้ามาจำนวนมาก และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบ 50% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เนื่องจากอิมแพ็คได้จัดโปรโมชั่น สร้างสรรค์รูปแบบการจัดเลี้ยงที่มีความโดดเด่นและแตกต่าง มุ่งเน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย รวมถึงเพิ่มความคุ้มค่าและลูกเล่นในเรื่องของการตกแต่งสถานที่ การสร้างสรรค์รสชาติและหน้าตาอาหาร เครื่องดื่มต่างๆ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้ลูกค้าหรือผู้บริโภค อีกทั้งสร้างความน่าสนใจพยามเจาะกลุ่มลูกค้างานเปิดตัวสินค้า ปาร์ตี้ งานแต่งงานขนาดเล็ก รวมถึงการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนนอกสถานที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ
ประกอบกับธุรกิจร้านอาหารในเครืออิมแพ็คที่มีทั้งร้านอาหารไทยมโนราห์ อาหารจีนสไตล์ฮ่องกง ได้แก่ ร้านฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน ร้านฮ่องกง คาเฟ่ อาหารญี่ปุ่น ได้แก่ ร้านสึโบฮาจิ ร้านไทโชเต ร้านอิโตคาโจ อาหารฟิวชั่น ได้แก่ ร้านเทอราซซ่า ร้านบริสโตร เดอ แชมเปญ อาหารเมนูเส้น ร้านนู้ดเดิ้ลเนชั่น และฟลาน โอเบรียนส์ ไอริช ผับ ซึ่งมีสาขารวมกันแล้วมากกว่า 20 สาขาทั้งในและนอกพื้นที่ศูนย์ฯ ก็ยังคงสร้างรายได้เป็นอย่างดี ล่าสุดเมื่อเร็วๆ นี้ได้เปิดสาขาใหม่สุขุมวิท 33 สำหรับร้านอาหารญี่ปุ่นสึโบฮาจิ ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมมีสาขามากถึง 6 สาขาแล้ว
นอกจากนี้ อิมแพ็ค ยังได้แต่งตั้งผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มคนใหม่ ซึ่งมีความสามารถและประสบการณ์ทำงานอย่างมากจากสิงคโปร์มาช่วยดูแลแผนพัฒนาบุคคลากรและพัฒนาเมนูอาหารในรูปแบบ a la minute ซึ่งมุ่งเน้นเพิ่มสไตล์ความหลากหลาย รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งจะเริ่มในช่วงปลายปี 58 ทั้งหมดนี้น่าจะส่งผลให้ธุรกิจเอฟแอนด์บีของอิมแพ็คเติบโตราว 10-15%
ด้านนายลอว์เรนซ์ แทน ผู้อำนวยการฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ประจำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินงานของธุรกิจเอฟแอนด์บี อิมแพ็ค จากนี้ คือการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดเออีซีและก้าวสู่ความเป็นสากล จึงได้วางแผนงานพัฒนาเมนูอาหารในรูปแบบ a la minute หรือการมุ่งเน้นเพิ่มสไตล์การบริการของอาหารให้หลากหลายจากเดิม รวมถึงวางแผนการพัฒนา เรื่อง บุคลากร การเลือกบุคลากรให้มีความเหมาะสมกับงาน สร้างระบบการทำงานที่เน้นความคิดสร้างสรรค์ เพราะเทรนด์การจัดเลี้ยงปัจจุบันนั้นเน้นสไตล์ความหลากหลายแตกต่างไม่ซ้ำกัน
อย่างไรก็ตาม จากรายงานไตรมาสที่ผ่านมา เอฟแอนด์บี อิมแพ็ค สามารถทำรายได้กว่า 102 ล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 94 ล้านบาท อีกทั้งช่วงปลายปีที่มียอดจัดงานเลี้ยง แต่งงาน เข้ามาจำนวนมาก จะส่งผลให้รายได้รวมของเอฟแอนด์บีอิมแพ็คสิ้นสุดปีงบประมาณ 58 เป็นไปตามเป้าไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท หรือประมาณ 6% ของรายได้รวมขององค์กร