นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง กล่าวว่า หลังจากเสนอขายกองทุนบัวหลวงหุ้นโกลบอลเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ลงทุนที่ต้องการร่วมเป็นเจ้าของกิจการชั้นนำระดับโลกและต้องการทางเลือกในการกระจายความเสี่ยงนอกเหนือจากการลงทุนในกิจการดีๆ ในประเทศ จึงได้จัดตั้งกองทุนหุ้นโกลบอล RMF ขึ้นมาตามคำเรียกร้องของผู้ลงทุน
“กองทุนหลักที่ B-GLOBALRMF เลือกลงทุนในครั้งนี้เป็นกองทุนเดียวกับที่ B-GLOBAL เลือกลงทุน คือ กองทุน Wellington Global Opportunities Equity Portfolio ที่โดดเด่นภายใต้การบริหารของ Wellington Management Company ซึ่งเป็นบลจ.เดียวกับที่ได้บริหารกองทุนในกลุ่ม Healthcare Sector ที่ บลจ.บัวหลวง นำเงินจากกองทุนรวม BCARE และ BCARERMF ไปร่วมลงทุน และสามารถบริหารกองทุนได้อย่างโดดเด่นจนเป็นที่พึงพอใจของผู้ลงทุน" นางวรวรรณ กล่าว
Wellington Management Company ใช้วิธีการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีเป็นรายตัวแบบ Bottom-up ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับ บลจ.บัวหลวง ถือปฏิบัติตลอดมากว่า 23ปี Wellington Management Company มีทีมจัดการลงทุนและทีมวิเคราะห์มากประสบการณ์กว่า 590 คน กระจายอยู่ทั่วโลก ทำการคัดสรรบริษัทลงทุนกว่า 4,500 บริษัท เพื่อคัดเลือกบริษัทที่ดีที่สุดมาลงทุนในกองทุน Wellington Management Portfolios (Luxembourg) – Global Opportunities Equity Portfolio
กิจการที่ลงทุนเป็นธุรกิจที่เปิดกว้าง มีอนาคตที่ดี มีการขายไปทั่วโลก ไม่ได้จำกัดการทำธุรกิจเฉพาะในประเทศที่บริษัทนั้นจัดตั้งเท่านั้น ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนการลงทุนที่ให้น้ำหนักลงทุนที่มากกว่าเกณฑ์มาตรฐานตามดัชนี MSCI All Country World ในบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่โดดเด่น เช่น กลุ่มเฮลธ์แคร์ ไอที และกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่สินค้าพื้นฐานต่อดำรงชีพ(Consumer discretionary) ตามข้อมูล ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 โดยกองทุนนี้ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว (Five Star Overall Morningstar Rating) ประเภท Global Large-Cap Growth Equity จาก Morningstar อีกด้วย
ทั้งนี้ หุ้น 10 อันดับแรกและสัดส่วนที่กองทุนหลักเลือกลงทุน ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ได้แก่
Bristol-Myers Squibb 3.7% (สหรัฐ) บริษัทผลิตยาด้านชีวเวชภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตในด้านการผลิต และขายยารักษาโรคและยาบำรุง บริษัทมีการทดลองเพื่อที่จะบำบัดโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ เอดส์ เบาหวาน ไขข้อ ตับอักเสบ โรคที่ร่างกายปฏิเสธในการรับการปลูกถ่ายอวัยวะ และความไม่ปกติทางจิต
Google Inc 2.9% (สหรัฐ) บริษัทเทคโนโลยีที่เชี่ยวชาญในการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตและผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีการโฆษณาออนไลน์ ค้นหา คอมพิวเตอร์ และซอฟต์แวร์
Microsoft Corp 2.7% (สหรัฐ) บริษัทซอร์ฟแวร์ และเทคโนโลยีทางอินเตอร์เนตซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลก
Bank of America Corp 2.7% (สหรัฐ) ธนาคารใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าของสินทรัพย์
Allergan PLC 2.5% (สหรัฐ) บริษัทผลิตยาทั่วไปและเฉพาะทาง ที่มีผลิตภัณฑ์ยาด้านเภสัชกรรมทั่วโลก
Vonovia SE 2.1% (เยอรมันนี) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมันที่มีธุรกิจครอบคลุมทั้งยุโรป
BNP Paribas SA 2.1% (ฝรั่งเศส) ธนาคารสัญชาติฝรั่งเศส ดำเนินธุรกิจ 3 ด้าน ได้แก่ บริการการเงินสำหรับลูกค้ารายย่อย สินเชื่อบรรษัทกับวานิชธนกิจ และบริการด้านการลงทุนและผู้ดูแลผลประโยชน์ มีตลาดใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี เบลเยี่ยม และลักเซมเบิร์ก
Estee Lauder Cos 2.0% (สหรัฐ) บริษัทที่ผลิตและทำการตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม มีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลาย
Visa Inc 2.0% (สหรัฐ) บริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับบัตรเครดิต ที่ต้องการใช้ระบบการซื้อขายหรือใช้เงินผ่านระบบอิเลคโทรนิคโดยใช้ชื่อภายใต้แบรนด์ Visa
Mondelez Intl Inc 2.0% (สหรัฐ) บริษัทขนม ลูกอม ชอกโกแล๊ต อาหารและเครื่องดื่ม มีพนักงานกว่า 107,000 คนทั่วโลก เช่น โอรีโอ ชิปอะฮอย แคทเบอร์รี่ ท็อปเบอโลน เป็นต้น
B-GLOBALRMF จะเน้นการลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนในระยะยาว มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Wellington Management Portfolios (Luxembourg) – Global Opportunities Equity Portfolio ชนิด Class S (Accum – USD) ซึ่งเป็น Class สำหรับนักลงทุนสถาบันในสกุล USD ที่จดทะเบียนในประเทศลักเซมเบิร์ก
B-GLOBALRMF มีกำหนดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 2-10 พฤศจิกายนนี้ ในราคาหน่วยละ 10 บาท มีมูลค่าซื้อครั้งแรกและครั้งต่อไป ขั้นต่ำ 500 บาท