ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบจากตลาดเครื่องดื่มที่ชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจและการอ่อนค่าของค่าเงินของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งส่งผลกระทบให้ผลการดำเนินงานในอินโดไม่เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม จากการปรับแผนกลยุทธ์ในประเทศอินโดให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ เชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 59
“ภาพรวมการทำตลาดเครื่องดื่มของ SAPPE ที่มีการส่งออกไปทั่วโลกในปีนี้ ยอมรับว่ามีความท้าทายในระดับสูงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในเกือบทุกประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัทฯมีการเติบโตได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นการเติบโตในจีนและอินโดนีเซียที่การเติบโตไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง ส่งผลให้ภาพรวมการเติบโตในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้ปรับแผนกลยุทธ์ทางด้านการขายและการตลาดให้สอดคล้องกับความท้าทายในปัจจุบัน ซึ่งเราพร้อมร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศเพื่อทำกิจกรรมการตลาดสร้างแบรนด์สินค้าและผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน" นางสาวปิยจิต กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นทั้งแง่ของรายได้และกำไร จากยอดส่งออกสินค้าเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดในประเทศที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นขึ้นเช่นเดียวกันหลังจากบริษัทฯได้ปรับภาพลักษณ์ตราสินค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคสอดคล้องกับกระแสดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ด้วยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานการผลิตโดยได้เปิดสายการผลิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและแบรนด์สินค้าที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ตลอดจนแนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินบาทที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก จึงมั่นใจว่าด้วยแผนยุทธศาสตร์การขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชียและในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก จึงยังคงเป้าหมายยอดขาย 5,000 ล้านบาทในปี 60 และผลักดันแบรนด์ SAPPE ให้ก้าวสู่การเป็น Global Brand ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับตามเป้าหมายที่วางไว้"นางสาวปิยจิต กล่าว