สำหรับแคมเปญนี้จะเป็นการกระตุ้นยอดขายและมอบสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยจากโครงการคุณภาพเยี่ยม ทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการ ณุศาศิริ ซิตี้ พระราม2 ที่จัดโปรโมชั่นพิเศษสุดๆ ลดราคาครั้งใหญ่ บ้านขนาด 149 ตารางวา เนื้อที่ใช้สอย 340 ตร.ม. รับส่วนลด 1 ล้านบาท โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 35 ไร่ พัฒนาเป็นบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่ระดับ พรีเมี่ยม บน Greenery Zone จำนวน 104 ยูนิต
2. โครงการ ณ ราธร สุวินทวงศ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคา 3.89 ล้านบาท และทาวน์โฮม ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่นำเสนอด้วยราคาเริ่ม 1.69 ล้านบาท พร้อมฟรี ! เครื่องใช้ไฟฟ้า 10 รายการตั้งอยู่บนทำเล ศักยภาพ ติดถนนสุวินทวงศ์เชื่อมต่อไปได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนนิมิตรใหม่, ฉลองกรุง อีกทั้งยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โลตัส บิ๊กซี หนองจอก บนเนื้อที่กว่า 96 ไร่ จำนวน 674 ยูนิต ทุกยูนิตมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮมที่อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักอาศัย ที่จะทำให้การใช้ชีวิตของคุณสะดวกและสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
3. โครงการเฟรช คอนโดมิเนียมแนวใหม่ ย่านบางโพ ตั้งอยู่บนทำเลใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง และ สายสีน้ำเงิน ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ เฟสแรกพัฒนาเป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร จำนวน 372 ยูนิตขนาดพื้นที่ใช้สอย 26-52 ตารางเมตร(ตร.ม.) ที่มาพร้อมโปรโมชั่น “จองวันนี้ ...ได้ทั้งส่วนลดและของแถมมากมาย “ บริษัทฯได้นำห้องชุด 10 ยูนิตสุดท้ายมานำเสนอด้วยราคาพิเศษสุด ราคาเดียว 1.59 ล้านบาท จองวันนี้...รับเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
การจัดแคมเปญดังกล่าวก็เพื่อกระตุ้นการขายในช่วงสิ้นปี ที่เชื่อว่าตลาดอสังหาฯน่าจะคึกคักจากการจัดกิจกรรมการตลาดและการขายของผู้ประกอบการ ในขณะเดียวกันก็ได้แรงสนับสนุนจากมาตรการของรัฐบาลผ่านมาตรการการเงินและการคลังที่มติคณะรัฐมนตรีหรือ ครม.ออกมาล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้นได้ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้มีรายได้ทุกระดับ โดยมาตรการการเงินนั้นได้ดำเนินการผ่านการปล่อยกู้ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)ออกมาตรการเพื่อส่งเสริมการให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยแก่ผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง เพื่อให้ผู้กู้ใช้ในการซื้อที่ดินพร้อมอาคารห้องชุด หรือเพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคารโดยประมาณการวงเงินให้สินเชื่อรวมเบื้องต้น10,000 ล้านบาทให้ ธอส.สามารถขยายระยะเวลาได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 30 ปี และมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ที่มีรายได้สุทธิต่อเดือนไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งน่าจะเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ดีขึ้น
“ตลาดอสังหาฯในช่วงที่เหลือของปีต่อเนื่องไปถึงปี 59 จะคึกคักเพราะส่วนหนึ่งเพราะผู้ประกอบการแต่ละรายจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย รวมถึงได้แรงหนุนจากมาตรการของรัฐบาล ซึ่งมองว่าเป็นช่วงที่ดีของผูบริโภคที่ต้องการซื้อบ้าน หรือ คอนโดทั้งเพื่ออยู่อาศัยและการลงทุน" นางศิริญา กล่าว
พร้อมกันนี้ จากความสำเร็จของการเปิดตัวการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ NUSA ONE ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากกลุ่มลูกค้าหลัก และกลุ่มนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ร่วมถึงนักลงทุนต่างชาติ จากจุดเด่นของ NUSA ONE ที่ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ทำให้บริษัทสามารถสร้างยอดขายกว่า 2,000 ล้านบาท เกินความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นถึงดีมานด์ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนอย่างแท้จริงยังมีอยู่มาก ส่งผลให้ยอดขาย ณ ปัจจุบันของ NUSA อยู่ที่ 5,000 ล้านบาท คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน
NUSA ONE เป็นการลงทุนอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ที่ครบวงจรและยั่งยืน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ทำให้บริษัทมีแผนงานที่จะขยายเฟส 2 เร็วๆนี้ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่พลาดโอกาสการลงทุน NUSA ONE ในเฟส 1 ให้สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้อีกครั้ง โดยยังคงแนวคิด "ได้เงิน ได้เที่ยว ได้อสังหาฯ" เน้นจุดเด่นด้านผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่สุด ด้วยการลงทุนอย่างชาญฉลาด กับการการันตีรายได้ 6.5% นาน 9 ปี แบ่งเป็นเงินปันผล 5.5% และอีก 1% เป็น Point สามารถใช้แลกเข้าพักที่ในเครือ “Nusa One" ทั้ง 8 แห่งตามแคมเปญได้หรือสามารถแลกใช้บริการสุดพิเศษ อาทิ Limuzine หรือ Private Jet เป็นต้น