ทั้งนี้ ดีแทคตั้งเป้าหมายลูกค้า 4G ในสิ้นปีนี้ที่จำนวน 2.5 ล้านเลขหมาย จากปัจจุบันมีอยู่ 1.8 ล้านเลขหมาย ซึ่งการเพิ่มยอดผู้ใช้บริการ 4G จะทำให้บริษัทมีมาร์จิ้นสูงชึ้น โดยปัจจุบันผู้ใช้ 4G มียอดใช้ Data เฉลี่ย 4 GB/เดือน เทียบกับผู้ใช้ 3G เฉลี่ยที่ 2.7-2.8 GB/เดือน
แนวทางการเพิ่มจำนวนลูกค้า 4G จะมาจากกลุ่มผู้ใช้ 3G และ 2G โดยคาดว่าจะมาจากลูกค้าแบบรายเดือน (โพสต์เพด) ประมาณ 85% ของลูกค้าที่มีอยู่ 4.1 ล้านเลขหมาย และมาจากลูกค้าแบบเติมเงิน (พรีเพด) ประมาณ 35% จากที่มีอยู่ 20.9 ล้านเลขหมาย รวมทั้งหมดมีลูกค้า 25 ล้านเลขหมาย (ลูกค้า 3G มีประมาณกว่า 20 ล้านเลขหมาย , 2G มี 3 ล้านเลขหมาย และ 4G มี 1.8 ล้านเลขหมาย)
นอกจากนี้ มีเครื่องโทรศัพท์มือถือทุกแบรนด์ในตลาดสามารถรองรับระบบ 4G ได้ 136 รุ่น ทั้งคลื่น 1800 MHz และ 2100 MHz โดย DTAC มีเครื่องโทรศัพท์สมาร์โฟนเฮ้าส์แบรนด์ที่มีโปรโมชั่นนี้ตั้งแต่เดือน ก.ย.58
ด้านนายประเทศ ตันกุรานันท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี DTAC กล่าวว่า การนำคลื่น 1800 MHz และ คลื่น 2100 MHz รวมเป็น 15 MHz สามารถรองรับผู้ใช้บริการเป็นหลักหลายล้านเลขหมาย ขึ้นกับการบริหารจัดการที่ดีของบริษัท โดยงบลงทุนมาจากงบรวมปี 58 จำนวน 2 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ DTAC ได้นำคลื่น 1800 MHz มาใช้รองรับการใช้งานในเขตกรุงเทพชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นที่ใช้งานหนาแน่นและคิดเป็นบริเวณพื้นที่มากกว่า 50% ของพื้นที่ที่มีการใช้งาน 4G รองรับความต้องการใข้งานอินเตอร์เน็ตบนมือถือที่สูงขึ้น ส่วนคลื่น 2100 MHz จะรองรับต่างจังหวัด 30-40 จังหวัด และแผนในปีหน้าจะขยายพื้นที่ครอบคลุมทั้งระบบ 3G และ 4G ให้ได้ 95% โดยระบบ 3G จะขยายโครงข่ายครอบคลุมได้ 94-95% ภายในไตรมาส 2/59 จากปัจจุบัน 70%
ล่าสุด DTAC เปิดให้บริการ 4G Calling /VoLTE (Voice over LTE)เป็นเจ้าแรกในไทยที่สามารถทำให้การใช้งานสัญญาณเสียงและอินเตอร์เน็ตบนมือถือใช้ได้พร้อมกันบนเครือข่าย 4G โดยจะทำให้การโทรได้คุณภาพเสียงที่ชัดเจนและยังสามารถใช้งานวีดีโอคอลล์ด้วยภาพแบ HD คมขัดกว่าเดิม ซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจทดลองใช้งานประมาณ 10,000 รายในสัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ