สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ประจำสัปดาห์ (26 - 30 ตุลาคม 2558) ปริมาณการซื้อขายตราสารหนี้ มีมูลค่ารวม 455,179.16 ล้านบาท หรือเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณวันละ 91,035.83 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าประมาณ 26% ทั้งนี้เมื่อแยกตามประเภทของตราสารแล้ว จะพบว่ากว่า 69% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด หรือประมาณ 315,593 ล้านบาท เป็นการซื้อขายในตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (state Agency Bond) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นตราสารที่มีอายุคงเหลือค่อนข้างน้อย (ไม่เกิน 6 เดือน) ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลที่ออกโดยกระทรวงการคลัง (Government Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 93,616 ล้านบาท และหุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชน (Corporate Bond) มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 10,691 ล้านบาท หรือคิดเป็น 21% และ 2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตามลำดับ
สำหรับพันธบัตรรัฐบาล ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรกคือรุ่น LB196A (อายุ 3.6 ปี) LB21DA (อายุ 6.1 ปี) และ LB206A (อายุ 4.7 ปี) โดยมีมูลค่าการซื้อขายในแต่ละรุ่นเท่ากับ 24,544 ล้านบาท 17,278 ล้านบาท และ 17,069 ล้านบาท ตามลำดับ
ขณะที่หุ้นกู้ภาคเอกชน ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ หุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รุ่น CPALL173C (A(tha)) มูลค่าการซื้อขาย 583 ล้านบาท หุ้นกู้ของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด รุ่น TLT17NA (AAA) มูลค่าการซื้อขาย 582 ล้านบาท และหุ้นกู้ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) รุ่น PS205A (A) มูลค่าการซื้อขาย 449 ล้านบาท
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวเพิ่มขึ้น 1-4 bps. โดยพันธบัตรอายุ 10 ปีปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.04% จาก 2.62% ในสัปดาห์ก่อนหน้าเป็น 2.66% โดยผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 27-28 ต.ค. ที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0-0.25% อย่างไรก็ตาม Fed ได้ส่งสัญญาณอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน ธ.ค. ด้านการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันศุกร์ที่ผ่านมามีมติคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจแสดงแนวโน้มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง สำหรับปัจจัยภายในประเทศธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ก.ย. ว่ายังคงฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า ตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอาเซียน
ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา (26 ต.ค. - 30 ต.ค. 58) มีกระแสเงินลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดตราสารหนี้ไทยรวมสุทธิ 17,149 ล้านบาท โดยเป็นการขายสุทธิในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี) 17,941 ล้านบาท และซื้อสุทธิในตราสารหนี้ระยะยาว (อายุมากกว่า 1 ปี) 793 ล้านบาท
หมายเหตุ: อันดับเครดิต หมายถึง อันดับเครดิตของหุ้นกู้เฉพาะรุ่น หรือ อันดับเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้
ความเคลื่อนไหวในตลาดตราสารหนี้ไทย สัปดาห์นี้ สัปดาห์ก่อนหน้า เปลี่ยนแปลง สะสมตั้งแต่ต้นปี (26 - 30 ต.ค. 58) (19 - 22 ต.ค. 58) (%) (1 ม.ค. - 30 ต.ค. 58) มูลค่าการซื้อขาย แบบปกติ - Outright Trading (ล้านบาท) 455,179.16 360,243.43 26.35% 16,744,414.68 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ล้านบาท) 91,035.83 90,060.86 1.08% 82,893.14 ดัชนีพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Gross Price index) 108.85 108.91 -0.06% ดัชนีหุ้นกู้เอกชน (Corp Bond Gross Price index) 107.78 107.76 0.02% เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Gov Bond Yield Curve) --% ช่วงอายุของตราสารหนี้ 1 เดือน 6 เดือน 1 ปี 3 ปี 5 ปี 10 ปี 15 ปี 30 ปี สัปดาห์นี้ (30 ต.ค. 58) 1.46 1.49 1.5 1.75 2.25 2.66 3.04 3.66 สัปดาห์ก่อนหน้า (22 ต.ค. 58) 1.45 1.47 1.49 1.76 2.24 2.62 3.05 3.66 เปลี่ยนแปลง (basis point) 1 2 1 -1 1 4 -1 0