นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม หนึ่งในผู้ถือหุ้น NMG ระบุว่า ข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับกรณีกรรมการบริษัท NMG ขัดขวางห้ามผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุม สามารถสรุปได้ว่าเป็นการกระทำอันมิชอบด้วยกฎหมาย แต่กลุ่มนายสุทธิชัย แซ่หยุ่น ยังคงมีอำนาจบริหารจัดการในบริษัท โดยปราศจากการตรวจสอบจากผู้ถือหุ้นรายย่อยและผู้ถือหุ้นที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมการประชุมทั้งหมด รวมทั้งกรรมการบริษัทที่ต้องออกเมื่อครบตามวาระยังคงได้รับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ตามปกติ ซึ่งตนเองเห็นว่าเป็นการกระทำการทุจริต
แต่ปรากฏว่านับตั้งแต่วันที่กระทำผิดจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 6 เดือนกลับไม่มีการดำเนินการตามกฎหมายให้เห็นเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด และนับตั้งแต่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาวินิจฉัยว่าการขัดขวางไม่ให้ผู้ถือหุ้นเข้าประชุมเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ. บริษัทมหาชนจำกัดฯ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 3 เดือนแล้ว ก.ล.ต.ยังไม่ได้ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
นายสนธิญาณ ยังได้สอบถามถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว เพื่อเป็นข้อมูลในแนวทางการปฏิบัติดังนี้ พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 (รวมที่แก้ไขเพิ่มเติม) ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ของ ก.ล.ต.ไว้ตามมาตรา 89/7 มาตรา 281/2 และมาตรา 19(2) เหตุใด ก.ล.ต. จึงไม่ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อการบังคับใช้ตามกฎหมายดังกล่าวตามอำนาจหน้าที่ แต่กลับส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าพิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อน
ก.ล.ต.เชื่อได้อย่างไรว่าการกระทำผิดครั้งนี้เป็นการกระทำของนายณิทธิมน หัสดิน ณ อยุธยา แต่เพียงผู้เดียว โดยที่ไม่มีการวางแผนตระเตรียมการกันไว้ล่วงหน้าและสมรู้ร่วมคิด แบ่งหน้าที่กันทำกันไว้หรือไม่ ก.ล.ต.ได้ทำการสอบสวนหรือรวบรวมพยานหลักฐานในประเด็นการกระทำมีลักษณะเป็นทุจริตหรือไม่ และ ก.ล.ต. ได้ทำการสอบสวนหรือรวบรวมพยานหลักฐานจากกรรมการของบริษัท NMG ทุกคนหรือพยานบุคคลอื่นหรือไม่ และเหตุใด ก.ล.ต. จึงไม่ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญากับนายณิทธิมนและผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิด