(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามตปท.เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 4, 2015 09:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นแรงภายหลังจากที่บริษัทน้ำมันในสหรัฐฯจะลดกำลังการผลิตลง ดังนั้นจึงคาดว่าจะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานได้

นอกจากนี้ วันนี้ให้ติดตามการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม และให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อีกทั้งเชื่อว่าเรื่องที่ครม.ได้ยืดอายุ LTF น่าจะช่วยหนุนในแง่จิตวิทยาการลงทุนได้

พร้อมให้แนวรับ 1,405 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420-1,430 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,918.15 จุด เพิ่มขึ้น 89.39 จุด(+0.50%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,145.13 จุด เพิ่มขึ้น 17.98 จุด(+0.35%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.74 จุด(+0.27%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 258.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 8.92 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 169.01 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 46.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.11 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.10 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 พ.ย.58)1,412.62 จุด ลดลง 0.72 จุด(-0.05%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 370.56 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 พ.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 พ.ย.58) ปิดที่ 47.90 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.76 ดอลลาร์ หรือ 3.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 พ.ย.58)ที่ 7.08 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.53/55 ติดตามประชุมกนง.วันนี้-รอดูตัวเลขศก.สหรัฐในวันศุกร์
  • "กบง."นัดถกวันนี้พิจารณาราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนพ.ย.58 คาดขยับขึ้นตามต้นทุนตลาดโลก และค่าบาทแข็งขึ้น 0.67 บาทต่อกก.หรือ 10 บาทต่อถัง 15 กก.โดยส่วนหนึ่งลดเงินกองทุนฯอุ้มด้วย พร้อมพิจารณาปิดโครงการบัตรเครดิตพลังงานเอ็นจีวีตามที่จะสิ้นสุด 31 ธ.ค.นี้แต่ต่ออายุมาตรการบัตรส่วนลดเอ็นจีวีรถโดยสารสาธารณะอีก 1 ปีเป็นสิ้นสุดธ.ค.59
  • คณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติมาตรการเร่งรัดการลงทุนจริงให้เกิดเร็วขึ้น โดยได้รับสิทธิประโยชน์จากการลงทุนด้วยการเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมจากเดิมตั้งแต่ 1-4 ปี หรือสามารถนำค่าใช้จ่ายในการลงทุนมาหักภาษีได้ 2 เท่า เพื่อจูงใจให้นักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังกังวลใจในเรื่องสถานการณ์การเมืองแล้วชะลอการลงทุนไว้ เร่งตัดสินใจลงทุนเร็วขึ้นกว่าเดิม
  • ครม.อนุมัติขยายระยะเวลากองทุน LTF อีก 3 ปี ขยายเวลาการถือครองจาก 5 ปี เป็น 7 ปี ออกแพกเกจภาษีกระตุ้นลงทุนเอกชนตามบีโอไอ และให้ลด ขั้นตอน PPP เป็น Fast Track หรือไม่เกิน 1 ปี เริ่ม 6 โครงการ 3.47 แสนล้าน
  • สหภาพฯ กสท-ทีโอที ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เบรกการประมูลคลื่น 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ระบุคลื่น 1800 ยังติดคดีในศาลและยังเป็นของ กสท จี้บอร์ดมีมติฟ้อง กสทช.สัปดาห์หน้าไม่มีคำตอบเดินหน้าฟ้องศาลเอง ด้านทีโอทีมีมติฟ้อง กสทช.เองเช่นกัน ขณะที่ กสทช.ยันทุกขั้นตอนถูกกฎหมาย

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SAT(แอพเพิล เวลธ์)"ซื้อ"เป้าปี 59 ที่ 19.80 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q58 เท่ากับ 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175%QoQ และ 26%YoY ตามการผลิตรถยนต์ที่ฟื้นตัวดีขึ้นราว 21%QoQ หลักเป็นการเติบโตจากยอดผลิตรถปิคอัพเพื่อการส่งออก คาด 4Q58 ทั้งรายได้และกำไรมีแนวโน้มอ่อนตัวงจากผู้ผลิตรถปรับแผนปลายปีสอดคล้องกับ ส.อ.ท.ปรับประมาณการยอดผลิตรถยนต์ปีนี้เหลือ 1.9 ล้านคัน จากเดิม 2.05 ล้านคัน เติบโต 4% ส่งผลให้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 58 ลง 14.7% เหลือ 597 ล้านบาท ลดลง 8.2%YoY สะท้อนอุตฯฟื้นตัวช้ากว่าคาด แต่หวังกลับเข้าสู่ระดับปกติในปีหน้า
  • HMPRO(ฟันันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 10 บาท ภาพรวมเป็นกลาง แม้ยังไม่เห็นการฟื้นตัวของกำลังซื้อในต่างจังหวัด (คาดยอดขายสาขาเดิมใน 4Q15 ติดลบน้อยลงถึงทรงตัว Y-Y) แต่ Mega Home 7 สาขาคุ้มทุนและเริ่มสร้างกำไรแล้ว ทั้งปีอาจมีกำไรเล็กน้อยและมี Loss carry forward ไว้ใช้หักภาษีในปีหน้า แนวโน้มกำไร 4Q15 จะสูงสุดของปีรับไฮซีซั่นและงาน Expo คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 3.2% Y-Y และปีหน้าโต 14.4% Y-Y
  • CENTEL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 47 บาท คาดกำไรปกติ 3Q15 +4.8% Q-Q, +53.7% Y-Y จากทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารที่เติบโต แนวโน้มยังดีต่ออีก 2 ไตรมาสข้างหน้าเพราะ High season กำไรทั้งปีของปีนี้ที่คาดโต 48% Y-Y อาจต่ำไปเล็กน้อย แต่หลังจากนี้อัตราการเติบโตของกำไรจะลดลงสู่ระดับปกติ 12% Y-Y ต่อปีในอีก 3 ปีข้างหน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ