ก่อนหน้านี้ SORKON ได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยโฮมฟู้ด (กรุงเทพฯ) จำกัด เพื่อจำหน่ายอาหารจานด่วนประเภทก๋วยเตี๋ยว ข้าวแกง ข้าวขาหมู ข้าวหมูแดง ขนม เครื่องดื่ม และของฝาก ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะถือหุ้น 79.98%
นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SORKON ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า บริษัทจะหยุดลงทุนขยายสาขาร้านอาหารในเครือ แต่ละเปิดตัวร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าในรูปแบบเฟรนไชส์ เนื่องจากบริษัทมีโรงงานผลิตลูกชิ้นปลาของตัวเอง ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้เข้ามาทั้งค่าเฟรนไชส์ประมาณ 1 ล้านบาท/ราย ส่วนแบ่งรายได้ต่อชาม 3% และรายได้จากการส่งวัตถุดิบป้อนให้กับร้านสาขา
ส่วนร้าน"แซ่บเอ็กซ์เพรส"และร้านข้าวขาหมู"ยูนนาน"จะหยุดขยายสาขา เปลี่ยนมาขายเฟรนไชส์แทน โดยจะมีการปรับรูปแบบของร้าน"แซ่บเอ็กซ์เพรส"ด้วยการลดขนาดลงเหลือเป็นคีออส เพื่อลดการใช้พนักงานลงเหลือราว 3 คน จากร้านขนาดใหญ่ที่ต้องใช้พนักงานถึง 15-18 คน ซึ่งขณะนี้บริษัทมีร้านสาขา"แซ่บเอ็กซ์เพรส"จำนวน 6 สาขา ร้านข้าวขาหมู"ยูนนาน"32 สาขา โดยบริษัทมีแผนจะขยายเฟรนไชส์ทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
"เฟรนไชส์ ทำกำไรดีกว่า เราขายสิทธิ จัดระบบ ฝึกบุคลากร และควบคุมคุณภาพ เป็นการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนและโลเคชั่น เพราะคนที่ซื้อเฟรนไชส์ไปก็ต้องไปหาคนงานและโลเคชั่นเอง ซึ่งจะทำให้เรามั่นคงขึ้น เพราะเราจะหยุดลงทุนแล้ว สาขาๆ หนึ่งลงทุนตั้งแต่ 2 ล้านบาท ถึง 4-5 ล้านบาท"นายเจริญ กล่าว
นายเจริญ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนผลิตอาหารกล่องพร้อมทานด้วยเทคโนโลยีทันสมัยออกวางตลาด ซึ่งจะทำให้เก็บไว้ได้นานถึง 2 ปี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาของทีมวิจัย เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดอาหารพร้อมทานที่แต่ละปีตลาดรวมมีมูลค่าสูงถึงกว่าแสนล้านบาท