ทั้งนี้ AMATAVN เป็น Holding Company ซึ่งลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจหลักคือ การพัฒนาและประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ เบียนหัว ประเทศเวียดนาม บนพื้นที่ 700 เฮกต้าร์ หรือ 4,375 ไร่ รวมทั้งโครงการพัฒนาพื้นที่พาณิชยกรรม โครงการที่พักอาศัย และอาคารสำนักงานให้เช่า หรือ Amata Commercial Complex บนพื้นที่ประมาณ 19 เฮกต้าร์ หรือประมาณ 118 ไร่ รวมถึงธุรกิจเกี่ยวเนื่อง และโครงการในอนาคตในประเทศเวียดนามที่บริษัทจะดำเนินการในโครงการสวนอุตสาหกรรมไฮ-เทค (High Tech Industrial Park) อมตะ ซิตี้ ลองถั่น จังหวัดดองไน หลังจากที่รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติเข้าลงทุนอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเวียดนามแล้วเมื่อกลางปี 58 ที่ผ่านมา
นางสมหะทัย พาณิชชีวะ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AMATAVN เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 30% จากปีก่อนที่ทำได้ 723 ล้านบาท ภายใต้คาดการณ์ยอดขายที่ดิน 125 ไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อน ขณะที่ราคาที่ดินก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ประกอบกับ เศรษฐกิจของเวียดนามมีการขยายตัวต่อเนื่องและมีศักยภาพ ทำให้มีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาซื้อที่ดินค่อนข้างมาก โดยเฉพาะญี่ปุ่น รองลงมาเป็น ไต้หวันและเกาหลี
ปัจจุบัน สัดส่วนลูกค้าของ AMATAVN เป็นผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นกว่า 50 ราย ที่เหลือประกอบด้วย ไต้หวัน เกาหลี มาเลเซีย และกลุ่มยุโรป โดยขณะนี้บริษัทมีที่ดินรอการพัฒนาในเวียดนามมากกว่า 4 พันไร่ (ไม่นับรวมโครงการในอนาคต) ที่สามารถรองรับการขายได้อย่างน้อยอีก 10 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากสาธารณูปโภคในพื้นที่นิคม รวมถึงรายได้ค่าเช่า โดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20-30% ของรายได้รวมทั้งหมด
นางสมหะทัย กล่าวว่า บริษัทยังคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะกลับมาสู่ระดับปกติที่ 40-50% จากปีก่อนที่ลดลงไปเหลือราว 35% เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบการเวนคืนที่ดินล่าช้า ทำให้ส่งมอบที่ดินกับลูกค้าไม่ทัน ประกอบกับ ลูกค้าบางรายมีการขายคืนที่ดิน ส่งผลกดดันต่ออัตรากำไรของบริษัท
สำหรับการเติบโตในปี 59 -60 บริษัทวางเป้ายอดขายที่ดินจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 20% ซึ่งจะสนับสนุนให้รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% เนื่องจากบริษัทจะมีรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นด่วยหลังโครงการที่อยู่อาศัยและคลังสินค้าส่วนใหญ่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ พื้นที่นิคมโครงการใหม่ ยังมีราคาขายที่แพงขึ้นกว่าปัจจุบัน คาดว่าจะเพิ่มเป็น 5 ล้านบาทต่อไร่ จากปัจจุบันที่ 4.9 ล้านบาทต่อไร่
ทั้งนี้ บริษัทยังหวังรัฐบาลไทยจะมีมาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้ออกไปลงทุนในต่างประเทศ เพราะจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้ทัดเทียมภูมิภาค เนื่องจากเวียดนามมีค่าแรงงาน ราคาที่ดิน และภาษีเอื้อต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงยังจะช่วยให้ผู้ประกอบการประหยัดต้นทุนด้วย
ด้านนายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินร่วมและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ AMATAVN คาดช่วงปลายเดือนนี้จะมีการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์Book-Building ให้กับนักลงทุนสถาบันเพื่อกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอ ทั้งนี้ เบื้องต้นราคาไอพีโอ ตามปกติจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุน โดยคาดว่าส่วนลดที่ให้กับนักลงทุนจะเป็นระดับที่เหมาะสม ทั้งนี้ ได้มีการวิเคราะห์ราคาพื้นฐานจากบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่งประเมินไว้อยู่ในช่วง 9-10 บาทต่อหุ้น
บริษัทคาดว่าจะเปิดจองซื้อหุ้น IPO จำนวน ไม่เกิน 166,370,000 หุ้น คิดเป็น 17.79% ของทุนจดทะเบียน ช่วงต้นเดือน ธ.ค.นี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกลางเดือน ธ.ค.โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน ปัจจุบัน AMATAVN มีทุนจดทะเบียน 460 ล้านบาท ทุนชำระแล้ว 384.315 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ที่ 0.50 บาท /หุ้น (ราคาพาร์)
สำหรับสัดส่วนกาจัดสรรหุ้นระหว่างสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยนั้น คงจะต้องรอประเมินภายหลังการเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ภายในสัปดาห์นี้ก่อน จึงจะสามารรถระบุได้
ขณะที่บริษัทจะให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นของ บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน(AMATA)จองซื้อหุ้น AMATAVN ในสัดส่วน 25 หุ้นของ AMATA ต่อ 1 หุ้น IPO ของ AMATAVN ในราคาเดียวกับราคาเสนอขาย IPO ให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่ง AMATA กำหนดให้วันที่ 16 พ.ย.58 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อรับสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ AMATAVN (Record date)
"โดยปกติแล้วตามเกณฑ์แล้วต้องเสนอขายไม่ต่ำกว่า 25% ของทุนจดทะเบียน แต่ครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนราว 17% เพราะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ กลุ่มซีพีและกลุ่มสหพัฒน์ถือหุ้นอยู่รวมกันประมาณ 8% ซึ่งเราก็นับเป็นนักลงทุนทั่วไป เพราะถือไม่ถึง 5% ซึ่งเมื่อรวมกับจำนวนหุ้นไอพีโอที่เสนอขายจะเท่ากับ 25% และหลังจากการขายหุ้นไอพีโอแล้ว เราคาดว่าสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่จะเป็น AMATA เหลือถือ 73.79% จากเดิม 90% ส่วนกลุ่มสหพัฒน์ และซีพีจะถือรายละไม่ถึง 5% จากก่อนหน้านี้ที่ถือรวมกัน 10% ซึ่งก็เป็นไปตามเกณฑ์"นายรัฐชัย กล่าว
นายรัฐชัย กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกังวลบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยที่ปัจจุบันมีความผันผวน เนื่องจาก AMATAVN เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศแสดงความสนใจเข้ามามาก ซึ่งคาดว่าจะจัดสรรให้นักลงทุนสถาบันในประเทศมากกว่าต่างประเทศ เพราะจำนวนหุ้นที่เสนอขายมีไม่มากนัก และเน้นกลุ่มกองทุนระยะยาว