สำหรับการที่ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เชื่อว่าระยะยาวจะเป็นผลประโยชน์ให้แก่ประเทศ ทั้งในเรื่องของระบบการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ จะยังช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชนหันกลับมาลงทุนเพิ่มมากขึ้นด้วย ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการดึงดูดต่างชาติให้หันกลับมาลงทุนในประเทศไทย
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน คาดว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะได้รับผลดีจากการที่ภาครัฐได้ดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ ประกอบกับการคงอัตราภาษีนิติบุคคลไว้ที่ 20% จะช่วยให้ภาคเอกชนที่ได้เตรียมตัวลงทุนไว้แต่ได้ชะลอการลงทุนออกไป กลับมาลงทุนอีกครั้ง นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออกของไทยเชื่อว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภายนอกเข้ามาสนับสนุนอีกด้วย โดยมองว่าประเทศหลักๆ หลายประเทศจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้ง เช่น ยุโรปจะมีการประชุมในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อขยายระยะเวลาการทำ QE ออกไปอีก 6 เดือน ขณะที่ประเทศจีนจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการลงทุนของภาครัฐ รวมถึงญี่ปุ่นจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุนในประเทศไทย หลังจาก 3 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติมีการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง
"จากการที่ภาครัฐได้เร่งการลงทุนขนาดใหญ่ และส่งออกที่มีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับประเทศหลักต่างๆ จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกครั้งหนึ่ง จะส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้า หลังจากที่ต่างชาติขายหุ้นไทยไปติดต่อกันถึง 3 ปี ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เหล่านี้แล้ว เราก็เชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวใน 3-6 เดือน สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ก็เชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปถึง 1,500 จุด จากปัจจัยบวกทั้งในและต่างประเทศ"นายไพบูลย์ กล่าว
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ รองประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยและนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า มองแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในช่วงปลายปีนี้จะขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,450 จุด ซึ่งปัจจุบันตลาดหุ้นไทยยังได้รับแรงกดดันจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัวอยู่ ขณะที่ความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมช่วงเดือน ธ.ค. นี้ แต่อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับปัจจุบันก็ถือว่าบริษัทจดทะเบียนของประเทศไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ประกอบกับได้รับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามาหนุนให้ความมั่นใจในการลงทุนด้วย ส่งผลให้ดัชนีสามารถปรับตัวขึ้นมาเหนือ 1,400 จุดได้ แม้ว่าในช่วงก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 1,400 จุด
สำหรับปี 59 คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะสามารถขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,500 จุดได้ ซึ่งจะได้รับผลดีจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐฯ และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆที่เข้ามาช่วยให้บริษัทจดทะเบียนไทยขยายตัวได้
"เราเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นไปได้แม้ว่าจะเจอความผันผวนจากความไม่นอนเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ FED แต่เรายังได้รับปัจจัยหนุนจากการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศเข้ามาหนุน ประกอบกับประเทศใหญ่ๆ อีกหลายประเทศมีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นส่วนที่ทำให้เงินทุนไหลกลับมายังประเทศไทยด้วย"นางภัทธีรา กล่าว