ทั้งนี้ โครงการที่บางเสร่มีมูลค่าสูงถึง 15,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจาร่วมลงทุนกับ บริษัท จงเทียน คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป จำกัด ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่จากประเทศจีน คาดว่าจะมีข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้ และเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 2/59 โดยบริษัทได้ซื้อที่ดินแปลงใหญ่ขนาด 160 ไร่ มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทเพื่อเตรียมพัฒนาเป็นโครงการเชิงพาณิชย์แนวราบขนาดใหญ่ พร้อมคอนโดมิเนียมริมทะเล รองรับการขยายตัวในภาคตะวันออก
ทั้งนี้ บริษัทได้ตั้งงบลงทุนปี 59 ไว้ราว 4,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการ โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินหมุนเวียน และเงินกู้บางส่วน แต่จะไม่มีการซื้อที่ดินเพิ่มเติม เนื่องจากปัจจุบันบริษัทเตรียมที่ดินรองรับพัฒนาโครงการไว้แล้วในช่วง 3-4 ปีจากนี้
"ปี 59 เราจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเติบโตอย่างยั่งยืน ซื้อเราดูใน 4 ข้อหลักๆ คือ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามีการซื้อที่ดินไว้รองรับการพัฒนาโครงการแล้ว มีกลยุทธ์การขยายที่แตกต่างจากคนอื่น การพัฒนาที่มีความเสี่ยงต่ำ และสุดท้ายคือการให้ผลตอบแทนที่สูก ซึ่งปัจจุบันเรามีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ระดับต้นๆเมื่อเทียบกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์"นายทนงศักดิ์ กล่าว
นายทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่าจากการบุกตลาดอย่างต่อเนื่องทั้งปีนี้จะทำให้บริษัทสามารถปิดการขายในปีนี้ตามเป้าที่ไว้ 3,000 ล้านบาท พร้อมด้วยยอดรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 4,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้น 300% จากปีที่ผ่านมา โดยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/58 ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 เนื่องจากบริษัทมียอดขายรอโอน(Backlog)ราว 4,000 ล้านบาทที่จะรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ราว 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้เป็นรายได้จนถึงปี 60
แผนงานในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้บริษัทเปิดตัว 3 โครงการเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัยแนวราบขนาดใหญ่ภายใต้แบรนด์ “เจ.เอส.พี.ซิตี้"ใน 3 ทำเล 3 มุมเมือง มูลค่าโครงการรวมกว่า 9,000 ล้านบาทเน้นการพัฒนาภายใต้แนวคิด“THE KINGDOM OF LIVING & HAPPINESS"ซึ่งได้เริ่มเปิดขายตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ได้แก่ โครงการ เจ.เอส.พี. ซิตี้ สุขุมวิท แพรกษา ชุมชนคุณภาพแห่งใหม่บนเนื้อที่ 210 ไร่ ติดถนนแพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮาส์,บ้านแฝด จำนวนรวม 1,748 ยูนิต ในราคาตั้งแต่ 1.59 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการกว่า 3,600 ล้านบาท
รวมทั้งโครงการ เจ.เอส.พี. ซิตี้ รังสิต ชุมชนเมืองแห่งใหม่ที่รองรับการขยายตัวของกรุงเทพโซนเหนือ เนื้อที่ 140 ไร่บนทำเลติดถนนรังสิต-นครนายก คลอง 1 ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮาส์และบ้านแฝด ราคาตั้งแต่ 1.59 ล้านบาทต่อยูนิต จำนวนรวม 1,216 ยูนิต มูลค่าโครงการรวม 3,400 ล้านบาท และโครงการ เจ.เอส.พี. ซิตี้ บางปะกง ตั้งอยู่บนทำเลทองติดถนนบางปะกง-ฉะเชิงเทรา เนื้อที่โครงการขนาด 74 ไร่ ประกอบด้วยอาคารพาณิชย์, ทาวน์เฮาส์,บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว จำนวนรวม 553 ยูนิต ในราคาตั้งแต่ 1.59 ล้านบาท มีมูลค่าโครงการกว่า 1,700 ล้านบาท
ส่วนโครงการขนาดใหญ่ 3 โครงการที่ได้เปิดตัวไปแล้วนั้น บริษัทได้เตรียมเดินหน้าทั้งในด้านการก่อสร้างควบคู่ไปกับการสร้างความแข็งแรงให้กับแบรนด์เพื่อสร้างความมั่นใจ และมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ซื้อในโครงการ พร้อมเตรียมเปิดอีก 3 คอมมูนิตี้ ใน 3 โครงการ ได้แก่ ตลาดน้ำ สำเพ็ง 2 ตลาดวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ โครงการ ทิวลิป สแควร์ คอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ยูโรเปียน อ.อ้อมน้อย จ.สมุทรสาคร และ โครงการเดอะ ไมอามี่ บางปู ไลฟ์สไตล์มอลล์ จ.สมุทรปราการ โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้ เพื่อต้อนรับเทศกาลจับจ่ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี