“ธนาคารออกโปรแกรมพิเศษนี้มาเพื่อขานรับนโยบายรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารที่ต้องการแบ่งเบาภาระผู้ที่กำลังจะซื้อบ้านโดยเฉพาะการมีบ้านหลังแรก โปรแกรมนี้ช่วยประหยัดต้นทุนดอกเบี้ยได้มาก ยิ่งเมื่อรวมกับการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองที่ปกติต้องจ่ายล้านละ 2 หมื่นบาท เหลือเพียง 200 บาท และการนำ 20% ของราคาอสังหาฯมาคำนวณเป็นค่าลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี นับว่าช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองของผู้ที่กำลังคิดจะซื้อบ้านและมีความพร้อม" น.ส.อรอนงค์ กล่าว
สำหรับรายละเอียดโปรแกรมอัตราดอกเบี้ยพิเศษ แบ่งเป็น 2 แบบ (ปัจจุบัน MRR ของธนาคารอยู่ที่ 7.9%)
แบบที่ 1 สำหรับผู้ทำประกัน MRTA อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 MRR-5% (2.9%) ปีที่ 2 MRR-4% (3.9%) ปีที่ 3 เป็นต้นไปจนถึงตลอดอายุสัญญา MRR-2% (5.9%) ส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.23% และดอกเบี้ยเฉลี่ยตลอดอายุสัญญา (Effective Interest Rate หรือ EIR) อยู่ที่ 5.73%
แบบที่ 2 สำหรับผู้ไม่ทำประกัน MRTA อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 MRR-4% (3.9%) ปีที่ 2 MRR-4% (3.9%) ปีที่ 3 เป็นต้นไปจนถึงตลอดอายุสัญญา MRR-2% (5.9%) ส่งผลให้ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 4.57% และ EIR อยู่ที่ 5.77%
คุณสมบัติผู้กู้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน กู้ได้ในวงเงินไม่เกิน1.5 ล้านบาท และผู้มีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน กู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 2.5 ล้านบาท ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน มีความต้องการซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย และมีศักยภาพ เมื่อรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือ และธนาคารออกโปรแกรมเพื่อแบ่งเบาภาระดอกเบี้ย จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อบรรยากาศเศรษฐกิจโดยรวมอีกด้วย
น.ส.อรอนงค์ กล่าวว่า หลังเสนอโปรแกรมดอกเบี้ยพิเศษคาดว่าจะมีลูกค้าตอบรับขอสินเชื่อประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาท ในอีก 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อบ้านทั้งปี 2558 คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 14,000 ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกสินเชื่อเติบโตประมาณ 9,000 ล้านบาท และจากนี้ถึงสิ้นปีน่าจะปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อเดือน