ขณะที่งวด 9 เดือน ปี 58 มีรายได้ 270.08 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 9.21 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของตลาดต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา อีกทั้งราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวลดลง สวนทางกับปริมาณการจำหน่ายที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตามบริษัทได้ศึกษาแนวทางลดต้นทุน ทั้งด้านกระบวนการผลิต วัตถุดิบ และการขนส่ง เพื่อรักษาอัตรากำไรให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังได้ขยายฐานลูกค้าออกไปในส่วนของงานภาครัฐมากขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนอยู่เพียง 20% ตั้งเป้าเพิ่มขึ้นเป็น 40% ซึ่งจากนโยบายของภาครัฐบาลที่จะออกมาสนับสนุนในการเดินหน้าโครงการก่อสร้างต่างๆ คาดว่าจะสามารถส่งผลให้บริษัทมีงานเพิ่มมากขึ้น
สำหรับเป้าหมายรายได้ปี 58 คาดว่าจะมีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 380 ล้านบาท ลดลงราว 5% จากปีที่แล้ว และในปี 59 คาดว่าจะมีรายได้เติบโตราว 10% จากปี 58 มาที่ไม่ต่ำกว่า 420 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตลาดไปยังตลาด CLMV ทั้งกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ประกอบกับนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมภาคอสังหาริมทรัพย์ และจากงบลงทุนของภาครัฐในปี 59 ซึ่งจะกระตุ้นภาคเอกชนในการลงทุน รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ค่อนข้างต่ำ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์และผู้ผลิตจำหน่ายวัสดุก่อสร้างโดยรวม และบริษัทผู้รับเหมา ซึ่งทางบริษัทก็จะได้รับผลบวกโดยตรง