"ราคาขายไอพีโอที่ 2.77 บาท เป็นราคาที่น่าสนใจ และในช่วงเปิดให้จองซื้อหุ้นไอพีโอที่ผ่านมาได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัท ในการเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่า ซึ่งมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด"นางนงลักษณ์ กล่าว
นางนงลักษณ์ กล่าวว่า บริษัทมีศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการพื้นที่เช่าที่เป็นมืออาชีพ และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีโครงการในอนาคตที่ชัดเจน ประกอบกับธุรกิจการบริหารพื้นที่ให้เช่ามีอัตราผลตอบแทนที่ดี เห็นได้จากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จึงเชื่อว่าการเข้ามาระดมทุนในตลาดครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากยิ่งขึ้น
บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ไปใช้เป็นเงินทุนในการขยายธุรกิจจำนวน 233 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต และนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจำนวน 100 ล้านบาท ทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนผู้ถือหุ้น(D/E)ของบริษัทลดลงได้อีก จากงวดครึ่งปีแรกของปี 58 ที่มี D/E อยู่ที่ 1.73 เท่า ซึ่งไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับภาพรวมอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากการเติบโตของรายได้ในปัจจุบัน บริษัทมีแผนการเติบโตในระยะยาว โดยมีเป้าหมายในการขยายจำนวนพื้นที่เช่าทั้ง 3 รูปแบบให้มากกว่า 100 สาขาภายในปี 62 จากปัจจุบันมีสาขารวมกันอยู่ที่ 49 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในกลุ่มบมจ.เจมาร์ท (JMART) ที่มีประสบการณ์ในตลาดค้าปลีกมากกว่า 27 ปี เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Big C จึงทำให้มีช่องทางในการขยายสาขา IT Junction ได้อย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า J จะเป็นทั้งหุ้น Growth & Dividend Stock ที่มีการเติบโตสูง และมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ สร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในผลตอบแทนระยะยาว
อนึ่ง J ได้เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 120.39 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น แบ่งเป็นเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้น JMART จำนวนไม่เกิน 48.156 ล้านหุ้น หรือ 40% ของหุ้นที่เสนอขาย และเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปจำนวนไม่น้อยกว่า 72.234 ล้านหุ้นในช่วงวันที่ 2-4 พ.ย.นี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ (SET) ได้ในวันที่ 10 พ.ย.โดยมี บล.เอเซีย พลัส เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน