ส่วนตลาดหุ้นไทยก็อยู่ในช่วงปลายของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน จึงอาจจะมีแรงขายทำกำไรออกมาได้หลังจากที่มีการประกาศงบฯเรียบร้อยแล้ว
พร้อมให้แนวรับ 1,394-1,387 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(9 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,730.48 จุด ลดลง 179.85 จุด(-1.00%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,095.30 จุด ลดลง 51.82 จุด(-1.01%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,078.58 จุด ลดลง 20.62 จุด(-0.98%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 185.69 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 29.48 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 221.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 27.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 10.25 จุด
ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลดีปาวาลี
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 พ.ย.58)1,402.57 จุด ลดลง 11.97 จุด(-0.85%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,035.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 พ.ย.58) ปิดที่ 43.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 42 เซนต์ หรือ 0.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 พ.ย.58)ที่ 7.81 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.88/90 แข็งค่าจากวานนี้ แต่แนวโน้มอ่อนค่า ลุ้นแตะ 36
- รฟท.ประกาศรายชื่อเอกชนที่มีคุณสมบัติและจะเข้าร่วมเสนอราคาด้วยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชั่น) โครงการรถไฟทางคู่เส้นฉะเชิงเทราคลองสิบเก้า-แก่งคอย ระยะทาง 106 กม. กรอบวงเงิน 1.05 หมื่นล้านบาท ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ โดยเอกชนที่ยื่นซองคุณสมับัติผ่านการคัดเลือกทุกราย
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า การเบิกจ่ายเงินลงทุนตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในโครงการบริหารจัดการน้ำและถนน วงเงินรวม 8 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายได้แล้ว 2.4 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปี 2558 จะสามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมาย 3.5 หมื่นล้านบาท และเม็ดเงินจะถูกอัดฉีดเข้าระบบเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันทีภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ช่วยสนับสุนนเศรษฐกิจปี 2558 เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 3%
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำมาระยะหนึ่ง ทำให้ ธปท.ต้องระมัดระวังเรื่องเสถียรภาพทางการเงิน 2 ประเด็น คือ เงินออมของประเทศที่อยู่ในระดับต่ำ หากจะมีการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ก็ต้องมองปัญหาด้านเงินออมที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยต่ำด้วย
*หุ้นเด่นวันนี้
- J (บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท) เทรดวันนี้วันแรก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส แนะ"เก็งกำไร"ให้ราคาพื้นฐาน 2.89-3.07 บาท สูงกว่าราคาจอง 4%-11% ตามลำดับ โดยราคาขาย IPO ที่ 2.77 บาท/หุ้น โดยคาดการณ์รายได้ปีนี้และปีหน้าเพิ่ม 19%/ 10% y-o-y ตามลำดับ สำหรับกำไรสุทธิเพิ่ม 11%/10% y-o-y ตามลำดับ
ปัจจัยบวกคือ มีรายได้เป็นค่าเช่าที่ไม่ผันผวนมาก มีบริษัทแม่คือ JMART คอยสนับสนุน แต่ปัจจัยเสี่ยงคือ การแข่งขันที่สูง เพราะปัจจุบันห้างสรรพสินค้าทุกแห่งต่างมีพื้นที่สำหรับจำหนายสินค้าโทรศัพท์เคลื่อนที่และสินค้าเทคโนโลยี่ แบรนด์บริษัทอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ไม่ถึงกับได้รับความนิยมสูง
- PTTGC (ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 72 บาท คาด 4Q58F ฟื้นตัว ปี 59 ได้สองโครงการหนุนผลประกอบการ
- CENTEL (ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 46 บาท เป็นหุ้นที่เป็นไปตามอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยที่กำลังเติบโตสูงขณะเดียวกันก็ได้แก้ปัญหาธุรกิจอาหารที่กำลังซื้อชะลอลง ด้วยการปิดสาขาที่ไม่กำไรยังผลให้ธุรกิจนี้มีความสามารถการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- BTS(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 10.40 บาท คาดกำไร 2H58-59 จะดีขึ้นหลังธุรกิจโฆษณาฟื้นตัว แม้ปีนี้กำไรหลักมีแนวโน้มอ่อนลง แต่ราคาหุ้นถูกค้ำด้วยปันผลสูงอัตราผลตอบแทน 6.9% ปีหน้ามี catalyst เรื่องประมูลงานบริหารเดินรถ ส่วนปี 60-61 เริ่มมีกำไรจากคอนโด The Line ส่วนกำไรหลัก 2Q57-58 (สิ้น ก.ย.58) อ่อนกว่าคาดเป็น 305 ล้านบาท ลดลง 50% y-o-y และ 29% q-o-q ธุรกิจอสังหาฯดีขึ้น แต่ธุรกิจที่ด้อยลงคือ โฆษณาของ VGI หลังจากไม่มีรายได้จากโฆษณาโมเดิร์นเทรดที่ได้ยกเลิกไป แต่อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น q-o-q