นายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ NYT เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมปี 59 จะเติบโต 10% จากปี 58 ที่คาดรายได้โต 10% จากปีก่อนหน้าที่ 1,329 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามยอดการส่งออกรถยนต์ของไทย โดยคาดว่าในปีหน้าจะมีการส่งออกรถยนต์อยู่ที่ 1.5 ล้านคัน จาก 1.2-1.3 ล้านคันในปีนี้ ซึ่งบริษัทก็จะเติบโตตามยอดส่งออกรถยนต์ หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 80% ของจำนวนส่งออกรถยนต์ของไทย
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมแผนขยายท่าเรือ A5 ในท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อรองรับรถยนต์รอส่งออกให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านคัน/ปี จากปัจจุบันที่มี 1.2-1.3 ล้านคัน/ปี แต่จะขอรอประเมินตัวเลขการส่งออกให้แน่ชัดอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะขยายท่าเรือเพิ่มเติมไปอีก แต่เบื้องต้นได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 700-1,000 ล้านบาทสำหรับโครงการดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทได้สัมปทานพื้นที่เช่าท่าเรือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวนกว่า 30 ไร่ ระยะเวลา 20 ปี และต่อสัญญาได้อีก 20 ปี อยู่บริเวณใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งเบื้องต้นจะใช้สำหรับเป็นกองเก็บพักรถยนต์เพื่อรอส่งออก
สำหรับฐานะการเงินของบริษัทนับว่าแข็งแกร่งมาก เพราะเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้ และปัจจุบันมีกระแสเงินสดราว 1,600 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายลงทุน โดยเม็ดเงินบางส่วนเป็นเงินจากการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ที่ยังไม่ได้ใช้ ซึ่งหากบริษัทจะลงทุนเพิ่มเติมก็อาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้เลย
นายเทพรักษ์ กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่ารายได้จะเติบโต 10% ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโตสูง จากระดับ 404.23 ล้านบาทในปีที่แล้ว โดยในช่วงครึ่งแรกปีนี้มีกำไรสุทธิแล้ว 220 ล้านบาท และแนวโน้มรายได้และกำไรในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะดีกว่าครึ่งปีแรก ประกอบกับธุรกิจมีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)ดี โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 50% และอัตรากำไรสุทธิ 30% ซึ่งจะพยายามรักษาระดับดังกล่าวไว้ในปีนี้
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/58 ที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) คาดว่าทั้งรายได้และกำไรจะสูงกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อน ตามการส่งออกรถยนต์ซึ่งในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ไทยส่งออกรถยนต์กว่า 9.05 แสนคัน และสิ้นปีน่าจะส่งออกได้ตามเป้าหมาย ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากการส่งออกรถกระบะรุ่นใหม่ และรถยนต์อีโคคาร์เฟส 2 ขณะที่บริษัทได้ส่งออกรถยนต์ไปแล้วกว่า 7 แสนคัน ในช่วง 9 เดือนแรก ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์
"ปีนี้เรามีโอกาสขยายตัวเกิน 10% อยู่ที่การส่งออกรถยนต์ ขณะที่ผู้ประกอบการรถยนต์ยังเดินหน้าผลิต ในเรื่องของการส่งออกมีรถยนต์อย่างเดียวที่โต อย่างอื่นไม่โตเลย ซึ่งความเสี่ยงของบริษัทคือเศรษฐกิจโลก...การฟื้นตัวของรถยนต์ส่งออกช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากการประหยัดต่อขนาดเพราะต้นทุนคงที่ แค่วอลุ่มเพิ่มซึ่งก็รักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ 50% ได้"นายเทพรักษ์ กล่าว
ปัจจุบัน NYT มีสัดส่วนการส่งออกรถยนต์ แบ่งเป็นยุโรป 6% แอฟริกาใต้ 17-18% ตะวันออกกลาง 21-22% ออสเตรเลีย 23% เอเชีย 20% และอเมริกาเหนือ โดยมาตรฐานประกอบรถยนต์ของไทยที่ดีมาก ทำให้ไทยมีการส่งออกรถยนต์ไปหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่ NYT มีกำไรทุกปี และมีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทจ่ายปันผลในอัตรา 70-80% ทุกปี
อนึ่ง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)รายงานยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ที่ 905,366 คัน เพิ่มขึ้น 7.92% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และวางเป้าหมายการผลิตรถยนต์ในปี 58 ที่ระดับ 1.95-2 ล้านคัน โดยเป็นการผลิตรถยนต์เพื่อการจำหน่ายในประเทศ 7.5-8 แสนคัน และการผลิตเพื่อส่งออกที่ 1.2 ล้านคัน
นายเทพรักษ์ กล่าวว่า ตามแผนการดำเนินงานของบริษัทจะเข้าไปซื้อหุ้นในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด (LRT) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือ C0 เพิ่มเป็น 49% จากปัจจุบันถืออยู่ 20% โดยจะซื้อเพิ่มอีก 29% มูลค่าซื้อรวม 800-900 ล้านบาทภายในปี 61 ซึ่งกำหนดไว้ในสัญญาแล้ว แต่ขณะนี้รอให้บริษัทดังกล่าวมีกำไรสุทธิก่อน ซึ่งปัจจุบันก็มีกำไรจากการดำเนินงาน แต่ถ้ารวมค่า Goodview แล้วยังขาดทุน จึงต้องรอให้ทางบัญชีเป็นบวกก่อน
ส่วนการที่นางโนรี สุขสวัสดิ์ ได้ขายหุ้น NYT จำนวน 18.43% ให้กับ บริษัท เอ็น.วาย.เค.(ประเทศไทย) จำกัด (NYK) มองว่าเป็นผลดีต่อ NYT เพราะปัจจุบัน NYT ถือหุ้นอยู่ในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด สัดส่วน 20% ขณะที่ NYK ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว 80% จึงเอื้อประโยชน์กันทำให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพราะท่าเรือ C0 นอกจากเป็นท่าเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แล้ว ยังมีสินค้าทั่วไปด้วย เช่น สินค้าหนัก สินค้าแท่นขุดเจาะ ซึ่งรองรับสินค้าอื่นๆด้วย ทำให้สามารถให้บริการได้ครบวงจรมากขึ้น
"คุณโนรีขายหุ้นให้ NYK ซื้อไป ซึ่ง NYK เป็นลูกค้า 50% เป็นพาร์ทเนอร์ที่เกาะแน่น หนุนซึ่งกันและกันให้แข็งแกร่งขึ้น ลูกค้าจะไม่ไปไหน และถ้าซื้อ C0 เพิ่มเป็น 49% ลูกค้าก็จะไม่ไปไหนเลย เสริม NYT ให้แข็งแรงมากขึ้น"นายเทพรักษ์ กล่าว