สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/58 ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยไทยแอร์เอเชียมีรายได้รวม 7,254.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 174.4 ล้านบาท พลิกกลับจากขาดทุนสุทธิในช่วงเดียวกันของปีก่อน หลักๆมาจากราคาเฉลี่ยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ค่าโดยสารเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ 9 เดือนแรกปี 2558 มีผลประกอบการ รายได้รวมอยู่ที่ 21,873.3 ล้านบาท กำไรสุทธิรวม 1,471.4 ล้านบาท โดย AAV มีกำไรสุทธิ (ส่วนของบริษัทใหญ่) ไตรมาส 3 ปี 2558 และ เก้าเดือนแรกของปี 2558 อยู่ที่ 91.6 ล้านบาท และ 804.0 ล้านบาท ตามลำดับ
"ในไตรมาส 3 ปี 2558 นี้ บริษัทไทยแอร์เอเชียสามารถเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากการเมืองในประเทศมีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งส่งผลบวกต่อภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยในไตรมาส 3 ขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 3.58 ล้านคน ขณะที่อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) เติบโตอยู่ที่ร้อยละ 81 โดยปัจจุบันไทยแอร์เอเชียมีฝูงบินทั้งหมด 44 ลำ ทั้งนี้บริษัทพร้อมตอกย้ำการเป็นผู้นำ สร้างโอกาสใหม่กับการท่องเที่ยวภาคตะวันออกและเมืองพัทยา โดยเปิดฐานปฏิบัติการการบินแห่งที่ 5 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา (พัทยา) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมต่อเส้นทางการบินที่หลากหลาย"
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ปี 2558 ไทยแอร์เอเชียได้ขยาย 3 เส้นทางการบินใหม่คือ กรุงเทพฯ-บังกาลูรู (อินเดีย) และเปิดฐานปฏิบัติการการบินแห่งที่ 5 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา(พัทยา) บินตรงสู่ประเทศจีนที่เมืองหนานหนิง (3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) และหนานชาง (4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์) ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
“ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองพัทยามีความพร้อมอย่างมากในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ตื่นตัวและมีแผนรองรับการเติบโตของสายการบินและนักท่องเที่ยวที่ชัดเจน ทำให้เรามั่นใจในการเปิดให้บริการ โดยไทยแอร์เอเชียนำเครื่องบิน 2 ลำไปประจำการ บินตรงสู่เส้นทางทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ เราเชื่อว่าการที่เราก้าวเร็วกว่าคนอื่นเสมอ ในการเปิดให้บริการที่อู่ตะเภาแบบเต็มรูปแบบ จะเป็นโอกาสที่ดีแก่ธุรกิจและนักท่องเที่ยวทุกคนแน่นอน" นายธรรศพลฐ์ กล่าว