สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/58 บริษัทมีรายได้รวม 1,443.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 420.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทมีรายได้รวม 3,663.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 764.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยสาเหตุการเติบโตของผลประกอบการในไตรมาส 3/58 มาจากการรับรู้รายได้จากงานในมือ ของโครงการ TUPI B.V. ที่รับจากประเทศบราซิลเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้รับอานิสงส์จากค่าเงินสกุลดอลลาร์ที่แข็งค่า ทำให้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามา
"9 เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีอุปสรรคในการดำเนินโครงการของ Roy Hill และ QGI แต่บริษัทสามารถผ่านพ้นไปได้ รวมทั้งยังกลับมาเติบโตได้ตามทิศทางที่วางไว้ โดยบริษัทยังคงเป้าหมายที่คาดว่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนหน้า ปัจจุบัน แม้ท่ามกลางภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่บริษัทยังได้รับความสนใจจากลูกค้าหลายรายจากหลากหลายอุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 40,000 ล้านบาท เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่า บริษัทได้กลับมาอยู่บนเส้นทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง"นายยู ยูน กล่าว