บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมเบื้องต้นของ บมจ.สยามราช(SR) สำหรับปีหน้าที่ราว 4.51 บาท โดยมองว่ากำไรหลักของบริษัทมาจากงานประเภท EPS และ MTP
ผู้บริหารคาดว่ารายได้จากงาน EPS จะเพิ่มขึ้นในปี 2016 เป็นต้นไป และทำให้สัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 20% พร้อมทั้งอัตรากำไรขั้นต้นของงานที่สูงเกิน 30%
บมจ.สยามราช ประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลักคือ 1) ธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรมก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (MTP) โดยมีลูกค้าหลักคือ ปตท. สผ. และ เชฟรอน รวมถึงกลุ่มโรงไฟฟ้า คิดเป็นสัดส่วนรายได้ 60% 2) ธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ได้แก่ สถานีบริการ ออกแบบ ก่อสร้าง บำรุงรักษาและบริหารจัดการสถานีบริการภายใต้ชื่อ “สยามราช" โดยมีสาขาทั้งสิ้น 2 แห่งและมีสถานีบริการที่จำหน่ายให้กับรถร่วมและ บขส. เท่านั้นอีก 2 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนของรายได้ 30% และ 3) ธุรกิจออกแบบและจำหน่ายระบบปั๊มอุตสาหกรรมและระบบวิศวกรรมที่เกี่ยวข้อง (EPS) ให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าคิดเป็น 10% ที่เหลือ
โครงการอนาคต : 1) บริษัทจะนำเงินที่ได้มาใช้หมุนเวียนในการดำเนินงานและรับรองคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า 2) ใช้เป็นเงินทุนเพื่อขยายระบบท่อส่งก๊าซเพื่อรองรับความต้องการของโรงไฟฟ้าและลูกค้าอุตสาหกรรม
นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SR กล่าวว่า ราคาหุ้น SR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในวันนี้สูงกว่าราคาจองอย่างน่าประทับใจ เนื่องจากได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัท
"ราคาหุ้น SR ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจากราคาไอพีโอที่ 3.50 บาท/หุ้น สะท้อนว่านักลงทุนมีความเข้าธุรกิจของบริษัทฯ และเชื่อมั่นต่อพื้นฐานธุรกิจ ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้น SR อย่างอบอุ่นในวันนี้ และตัวผมเองในฐานะของผู้บริหารแล้วยังเป็นผู้ถือหุ้นด้วยเช่นกัน จะทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อจะผลักดันผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง อันจะนำมาสู่ผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต"นายเกียรติ กล่าว
นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SR กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่หุ้นน้องใหม่ SR ที่ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างอบอุ่นและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีกับนักลงทุน ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และยังมีศักยภาพเติบโตได้อีกมากในอนาคต