นอกจากนี้ ราคาประมูล 4G ก็อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้มาก ดังนั้น ความคาดหวังมูลค่าส่วนเพิ่มจึงได้น้อยลงกว่าที่คาดไว้ ทำให้นักลงทุนอาจผิดหวังจากราคาหุ้นที่จะ Outperform แม้ราคาประมูลจะสูงกว่าที่คาดไว้มาก แต่เชื่อว่าบริษัทฯคงจะมีเหตุผล ซึ่งก็คงต้องรอดูต่อไป แต่มองว่า Sentiment ของกลุ่มสื่อสารจะแย่ลง อีกทั้งราคาน้ำมันก็ทำ New Low ด้วยทำให้กลุ่มน้ำมันไม่ดี
ในส่วนที่น่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องที่เงินดอลลาร์สหรัฐฯได้อ่อนค่าลงมา 3 วันแล้ว ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมา 3 วัน ซึ่งก็น่าจะช่วยทำให้เป็นผลบวกต่อตลาดได้บ้าง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ก็คาดว่าน่าจะเป็นผลจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนค่า แต่ก็มองว่าเป็นเพียงแค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น
พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,394 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(11 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,702.22 จุด ลดลง 55.99 จุด(-0.32%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,067.02 จุด ลดลง 16.22 จุด(-0.32%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,075.00 จุด ลดลง 6.72 จุด(-0.32%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 46.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.57 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 125.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 11.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.05 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.84 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 32.50 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 พ.ย.58)1,390.15 จุด ลดลง 8.23 จุด(-0.59%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,058.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 พ.ย.58) ปิดที่ 42.93 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.28 ดอลลาร์ หรือ 2.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 พ.ย.58)ที่ 7.88 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.78/80 แข็งค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน รอดูตัวเลขรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ
- ประมูลคลื่น 4จี ระอุราคาทะลุกว่า 5.33 หมื่นล้าน เกิน 150% เอไอเอสกระอัก, การประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ในระบบ 4จี 2 ใบอนุญาต อายุ 18 ปี โดยมีบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค บริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น ร่วมประมูล
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ ได้อนุมัติโครงการลงทุนที่จะเข้าร่วมในมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี ฟาสต์แทร็ก) ทั้งหมด 5 โครงการ วงเงิน 334,207 ล้านบาท โดยได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งรัดการลงทุนให้เกิดขึ้นตามกรอบเวลา
- ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายกระทรวงการคลังเสนอโครงร่างปฏิรูปภาษีให้พิจารณาภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากรัฐบาลจะปฏิรูปภาษีให้ทันในรัฐบาลชุดนี้ โดยการปฏิรูปภาษีมีทั้งการเพิ่มลดอัตรา การพิจารณาประเภทภาษีใหม่ ในส่วนของภาษีนิติบุคคลได้มีการทำไปมากแล้วโดยการลดอัตราจาก 30% เป็น 20% เป็นการถาวร จึงจะไม่มีการปรับอะไรมากอีกในส่วนนี้
- ธปท.เผยธุรกิจบัตรเครดิตมียอดคงค้างเอ็นพีแอลในระบบแตะ 1.01 หมื่นล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนเกือบ 25% ปริมาณการใช้จ่ายโดยรวมหดตัวจากไตรมาสก่อน 4.88 ล้านบาท ยอดเบิกเงินสดล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 286 ล้านบาท แซงหน้าการใช้จ่ายในและต่างประเทศที่หดตัว 4.87 พันล้านบาท และ 302 ล้านบาท ส่วนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลหนี้เสียแตะ 1.67 หมื่นล้านบาท เพิ่มจาก นอนแบงก์
- บริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ออกรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจฉบับล่าสุด โดยระบุว่า แนวโน้มเศรษฐกิจโลกยังดูมืดมนไม่สดใสในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการกำหนดนโยบายเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ยังไม่มีเครื่องมือที่จะมารับมือกับสภาพอาการช็อกของเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกประกาศขยายวงเงินการขายเงินตราต่างประเทศ โดยอนุญาตให้ตัวแทนที่เป็นนิติบุคคล อาทิ โรงแรม บริษัททัวร์ ฯลฯ ขายธนบัตรเงินตราต่างประเทศให้ลูกค้าได้ไม่เกิน 8 แสนบาท/วัน/ราย จากเดิมไม่เกิน 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2 แสนบาท รวมทั้งอนุญาตให้นิติบุคคลซื้อหรือขายเงินตราต่างประเทศ หรือเช็ค รวมทั้งซื้อธนบัตรเงินตราต่างประเทศได้ไม่จำกัดจำนวน และยกเลิกข้อกำหนดที่ให้บุคคลหรือร้านรับแลกเงินต้องขายเช็คเดินทางเงินตราต่างประเทศที่รับซื้อจากธนาคารพาณิชย์ภายใน 15 วันด้วย
*หุ้นเด่นวันนี้
- RP (ท่าเรือราชาเฟอร์รี่)เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มบริการ โดยมีราคาขาย IPO ที่ 12 บาท/หุ้น โดย RP ดำเนินธุรกิจให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่เพื่อใช้โดยสารและขนส่งทางเรือในฝั่งอ่าวไทย จำนวน 2 เส้นทางระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะสมุย และระหว่างอำเภอดอนสัก-อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยมีบริการเดินเรือแบบประจำทางตามเที่ยวเวลา และเหมาลำ ปัจจุบันมีเรือเฟอร์รี่บริการทั้งหมด 12 ลำ เป็นเจ้าของท่าเรือ 2 แห่ง ได้แก่ท่าเรือดอนสักสากล และท่าเรือสมุยสากล นอกจากนี้ บริษัทได้ดำเนินธุรกิจร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านสะดวกซื้อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการโดยสารและขนส่งทางเรือเฟอร์รี่ของบริษัท
- QH (ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 3.00 บาท ช่วง 3Q58 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 570 ล้านบาท ลดลง 20.5%QoQ และ 47%YoY หลักมาจากรายได้โดยรวม 4,308 ล้านบาท ลดลง 71%QoQ และ 15%YoY จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวและการชะลอโอนรอมาตรการอสังหาฯ คาด 4Q58 จะกลับมาโตได้สูงสุดของปี จากการรับรู้รายได้โครงการขนาดใหญ่ Q อโศกในไตรมาสนี้ พร้อมปรับลดประมาณการปี 58 ลง คาดรายได้ลดลง 10% หรือที่ 19,315 ล้านบาท และกำไรลดลง 14% หรืออยู่ที่ 2,858 ล้านบาท โดยมีปัจจัยกดดันจากรายได้การขายโครงการอสังฯต่ำกว่าคาดมาก
- BANPU(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้าปี 59 ที่ 30 บาท มุมมองเชิงบวกต่อไตรมาส 4 แม้ว่าธุรกิจถ่านหินยังมีราคาขายทรงตัวต่ำ แต่ธุรกิจไฟฟ้า โดยเฉพาะหงสาที่เริ่มเดินเครื่องเฟส 2 พ.ย 58 จะช่วยสร้างรายได้ส่งผลให้ส่วนแบ่งขาดทุนลดลง อย่างไรก็ตามผลประกอบการ 9 เดือนแรกพลิกขาดทุนสุทธิ 57 ล้านบาท -102%YoY จึงปรับลดประมาณการกำไรปี 58 และปี 59 ลงสู่ 56 ล้านบาทและ 563 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งลดลง 86% และ 57% ตามลำดับ ทั้งนี้ ผลประกอบการปี 58 จะเป็นจุดต่ำสุดและจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในปี 59-60 หลังโรงไฟฟ้าหงสาเดินเครื่องได้เต็มกำลังการผลิตทั้ง 3 เฟส นอกจากนี้หาก BANPU POWER (BPP) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จะเป็นการเพิ่ม wealth ให้แก่ BANPU ในอนาคต
- MTLS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 25 บาท กำไรสุทธิมากกว่าที่เราและตลาดไว้ +20% Q-Q, +58% Y-Y เป็น 220 ล้านบาท แนวโน้มจะดีต่อใน 4Q15