สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2558 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 มีกำไรสุทธิ 442.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นถึง 50.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 294.06 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาส 3/2558 จำนวน 256.90 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (Margin) ขยายตัวขึ้นมาแตะที่ระดับ 583.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 43.83 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 8.12% เนื่องจากมีปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น
สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 ของ EARTH ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้จากการขายเท่ากับ 4,847.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 695.98 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้น 16.77% เนื่องจากบริษัทสามารถจำหน่ายถ่านหินได้เพิ่มขึ้น 28.28%
จากผลการดำเนินงานที่ปรับเพิ่มขึ้นดังกล่าว คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2558 ) แก่ผู้ถือหุ้นในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 148,811,251.95 บาท บาท โดยได้กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 25 พ.ย.58 และ กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 ธ.ค.58
“จากผลการดำเนินงานที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการบริหารต้นทุนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และมีคำสั่งซื้อถ่านหินเข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 เติบโตอย่างโดดเด่นและออกมาเป็นที่น่าพอใจ คณะกรรมการบริษัทจึงเห็นตรงกันว่าควรจะตอบแทนผู้ถือหุ้นด้วยการจ่ายเงินปันผล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเข้ามาลงทุนในหุ้น EARTH โดยบริษัทยังมีโอกาสอีกมากในการจัดจำหน่ายถ่านหินให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ อันจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท ประกอบกับล่าสุดบริษัทได้รุกธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นธุรกิจใหม่ที่มั่นใจว่าจะเข้ามาช่วยเสริมซึ่งกันและกันและสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้อีกมหาศาล และทำให้ภาพรวมของเครือธุรกิจ EARTHมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น"นายขจรพงศ์ กล่าว