ส่วนการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศ บริษัทอยู่ระหว่างการเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องฟรีทีวีเพิ่มเติมจากปัจจุบันมีรายการออกอากาศผ่านทางสถานี ททบ.5 สัปดาห์ละ 4 รายการ และในช่องฟ้าวันใหม่ สัปดาห์ละ 5 วัน เนื่องจากมีกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ ซึ่งจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ Operation BIM เรื่องข้อเข่าเสื่อม มะเร็ง และเบาหวาน ปัจจุบันผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับข้อเข่าเสื่อมมียอดขายดีที่สุด และในเดือนธันวาคมปีนี้จะเริ่มโปรโมทผลิตภัณฑ์ BIM E ดูแลสายตาเพิ่ม
นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัทในสิงคโปร์ เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO ในช่องทางธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น หรือ Multi-level Marketing (MLM) สำหรับผู้บริโภคในสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเกาหลี โดยตั้งชื่อบริษัทร่วมดังกล่าวว่า Asian Phytoceuticals International Limited ( API ) โดยสัดส่วนการถือหุ้น แบ่งเป็น APCO (33.3%) ผู้บริหาร APCODM (33.3%) และ ผู้บริหาร SAB บริษัทของสิงคโปร์ (33.3%)
ทั้งนี้รูปแบบการขายของ API คือ APCO ประเทศไทย จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ให้แก่ API จำหน่ายต่อให้บริษัท MLM ที่จัดตั้งอยู่แล้วใน AEC โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจำหน่าย มี 4 ผลิตภัณฑ์ คือ น้ำมังคุด Th Balance / Arthrinok สำหรับข้อเข่าเสื่อม / BIM O สำหรับดูแลสายตา / Th 17 สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
“ตอนนี้กำลังจดทะเบียนบริษัทกันอยู่ คาดว่าเริ่มดำเนินธุรกิจได้ในเดือนมกราคม 2559 โดยคนที่บริหารงานของบริษัท API คือ อดีตนายกสมาคมขายตรงของสิงคโปร์ (2 สมัย) ที่มีประสบการณ์ขายตรงและมีความคุ้นเคยกับบริษัทขายตรงชั้นนำของประเทศใน AEC ทั้งนี้ APCO จะได้ net margin จากการขายให้ API 60% ส่วน API ก็ได้ค่าคอมมิชชั่น 20-25% ของราคาที่ขายให้กับบริษัท MLM ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ APCO APCO จึงได้รับกำไรจากการขายถึง 2 ต่อ ทั้งใน APCO และ API" ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการร่างสัญญาบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับนักวิจัยภูมิคุ้มกันวิทยา ในมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทย เพื่อจัดทำโครงการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์แก่สังคมกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ ทั้งนี้ถือเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ได้ในอนาคต “บริษัทเชื่อมั่นว่าภาพรวมผลประกอบการปีนี้จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 4 และผลักดันให้ภาพรวมผลประกอบการปี 2558 มีรายได้รวมใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 425.81 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 118.77 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 94.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 21.33 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมจำนวน 112.39 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิจำนวน 34.31 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ งวด 9 เดือนปี 2558 บริษัทมีรายได้ 287.49 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.64 ล้านบาท" นายพิเชษฐ์ กล่าว