ขณะเดียวกัน บริษัทยังดำเนินการตามแผนสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้จากการลงทุนโครงการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแผนการขยายธุรกิจสู่ Data Center เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูงและสามารถต่อยอดสู่การให้บริการ Cloud Service ที่จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจได้ดีและช่วยลดความเสี่ยงในการพึ่งพางานประมูลจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจมากเกินไป
"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 จะเป็นจุดต่ำสุดของ AIT และจะเริ่มพลิกฟื้นเพื่อสร้างรายได้และกำไรให้กลับมาโดดเด่นได้อีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 4/58 เนื่องจากได้เตรียมทยอยส่งมอบงานและรับรู้รายได้ในไตรมาสสุดท้ายอีกหลายโครงการ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถทำผลการดำเนินงานให้เติบและเป็นไปตามเป้าหมาย 5 พันล้านบาทได้ตั้งไว้อย่างแน่นอน”นายศิริพงษ์ กล่าว
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะกิจการในงวดไตรมาส 3/58 มีกำไรสุทธิ 118.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่มีรายได้ 1,111 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 ยังสามารถผลักดันอัตราส่วนกำไรสุทธิสูงขึ้นจาก 8.09% เป็น 10.7% ของรายได้เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ผลการดำเนินงานจากงบการเงินเฉพาะกิจการงวด 9 เดือนแรกของปี 58 ที่มีรายได้ 3,700 ล้าน บาทและมีกำไรสุทธิ 407 ล้านบาท ลดลงจากงวด 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 5,535 ล้านบาทและกำไรสุทธิ 592 ล้านบาท แต่อัตราส่วนการทำกำไรสูงขึ้นเป็น 11% จาก 10.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากขีดความสามารถของบริษัทในการบริหารต้นทุนโครงการและการดำเนินงานของบริษัท ที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ