ทิศทางการเติบโตของ EPG ในช่วงครึ่งปีแรก ถือว่าเป็นไปตามที่บริษัทได้คาดการณ์ไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจในภาพรวมจะอยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ด้วยการพัฒนาคุณภาพของสินค้าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูงถึง 35%
สำหรับผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 58/59 (ก.ค.-ก.ย.58) มีรายได้จากการขายรวม 2,269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% และมีกำไรสุทธิรวม 424.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 199% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นใน 3 กลุ่มสินค้าหลัก อันได้แก่ ฉนวนกันความร้อน/เย็น ภายใต้แบรนด์ AEROFLEX มียอดขายเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศโดยเพิ่มขึ้น 23%, อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS มียอดขายเพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลัก และผลจากการขยายธุรกิจใหม่ในออสเตรเลีย (TJM) โดยเพิ่มขึ้น ถึง 61% และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ EPP มียอดขายเพิ่มขึ้น 20%
ผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพทั้งราคาวัตถุดิบที่ลดลง, Economy of scale และประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธุรกิจร่วมทุนยังได้รับประโยชน์จากการที่ค่ายรถยนต์ได้เปลี่ยนรุ่นรถยนต์ใหม่ทำให้ได้รับงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น บริษัทฯ จึงได้รับส่วนแบ่งกำไรในไตรมาสนี้สูงถึง 75.7 ล้านบาท และยังได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าลงของค่าเงินบาทเนื่องจากมีการส่งออกถึงกว่า 60% จึงส่งผลให้ 6 เดือนแรกปี 58/59 มียอดขายรวม 4,343.0 ล้านบาท มีกำไรสุทธิรวม 712.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 58 ว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 58/59 ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 224 ล้านบาท โดยจะปิดสมุดทะเบียนวันที่ 27 พฤศจิกายน 58 และมีกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 9 ธันวาคม 58 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ถือหุ้น