นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบบริหารจัดการการเดินรถ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อช่วยควบคุมพฤติกรรมการขับขี่และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงพัฒนาบุคลากร โดยจัดหลักสูตรอบรมอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้เติบโต รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนทางการเงินให้อยู่ในระดับต่ำด้วยการจัดโครงสร้างทางการเงินให้มีความเหมาะสม
ทั้งนี้ ATP แจ้งผลประกอบการงวดไตรมาส 3/58 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 67.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.90 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.51% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า และบริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15.35 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 22.60% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งบริษัทมีกำไรขั้นต้น 13.11 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น 21.14%
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรก บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 198.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.06 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมที่ 172.05 ล้านบาท และบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.05 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6.77 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีค่าใช้จ่ายซึ่งเกิดจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนอยู่ที่ 21.99% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ 19.40% เกิดจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ที่ 22% ในปีนี้ และในปี 59 ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยตั้งเป้าหมายกำไรขั้นต้นในปี 59 ที่ 25%
อย่างไรก็ตาม บริษัทเชื่อมั่นว่าด้วยการบริหารจัดการที่ดี การพัฒนาบุคลากร พัฒนาระบบการดำเนินงานด้านการควบคุมการเดินรถ และเพิ่มสัดส่วนการให้บริการด้วยรถโดยสารของบริษัทจะส่งผลให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าที่วางไว้ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 270 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 235.01 ล้านบาท