อย่างไรก็ตาม โรงงานต้องแล้วเสร็จและได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐานสากลก่อน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 2/59 จากเดิมที่คาดว่าจะก่อสร้างและสามารถประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาส 3/58
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/58 บริษัทมีรายได้รวม 445.11 ล้านบาท ลดลง 1.36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 451.23 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 54.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.29%
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยอดขายในช่วงไตรมาส 3/58 ปรับตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นช่วงถือศีลอด ซึ่งลูกค้าหลักส่วนใหญ่เป็นเอเชียและตะวันออกกลาง อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว เนื่องจากวิกฤติค่าเงินและภาวะความไม่สงบทางการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะในประเทศ อิรัก อิหร่าน อินโดนีเซีย ลิเบีย บราซิล โคลัมเบีย เวเนซุเอลา
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของผลกำไรในไตรมาส 3/58 อยู่ที่ 54.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.76 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.29% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 43.10 ล้านบาท เนื่องจากต้นทุนขายและบริการ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่ลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทมีสัดส่วนงาน OEM ที่เพิ่มสูงขึ้น
ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และการปรับปรุงซ่อมแซมกระบวนการชุบ ทั้งกระบวนการใหม่แล้วเสร็จ และสามารถรับงานได้ในต้นไตรมาส 3/58 ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตในกระบวนการชุบลดลงมาก
นอกจากนี้ ในไตรมาส 3/58 บริษัทฯยังมีสัดส่วนของรายได้ OEM ที่เพิ่มสูงขึ้นจาก 18.03% ในไตรมาส 3/57 เพิ่มขึ้นเป็น 24.71% หรือเพิ่มขึ้น 33.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน