ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าปริมาณงานในมือ (Backlog) กว่า 1,200 ล้านบาททั้งงานก่อสร้างในประเทศ และงานซ่อมบำรุงและดูแลรักษา (Maintenance) เครื่องจักรในโครงการ Ambatovy ซึ่งเป็นโรงงานถลุงเหมืองแร่ที่ประเทศมาดากัสการ์ ระหว่างนี้บริษัทเตรียมเสนองานก่อสร้างใหม่หลายโครงการ มูลค่ารวมจะสูงกว่า 10,000 ล้านบาท โดยทุกงานทุกโครงการเป็นการรับงานแบบสัญญาเปิด บริษัทสามารถเพิ่มการรับรู้รายได้จากมูลค่างานในช่วงเริ่มเสมอ
สำหรับผลประกอบการช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 1,361 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 296 ล้านบาท ขณะที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 57 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,062.73 ล้านบาท และ กำไรสุทธิ 646.78 ล้านบาท สาเหตุที่รายได้ลดลงมีผลมาจากการที่บางโครงการได้สิ้นสุดลง และจากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกตกต่ำเป็นประวัติศาสตร์ จนทำให้ผู้ประกอบการหลายรายในธุรกิจพลังงานประสบกับสภาวะขาดทุน ทำให้ลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงานชะลอการลงทุนโครงการใหม่ ส่งผลให้งานก่อสร้างลดน้อยลง
"บริษัทยังมองหาช่องทางและโอกาสใหม่ๆ ในการสร้างรายได้และผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้น จะเห็นว่าตัวเลขของผลประกอบการของเรา ลดลง แต่ยังมีกำไรอยู่ มั่นใจว่าในอนาคตอันใกล้จะได้เห็นโครงการใหม่ๆ ของบริษัท"นายกฤษฎา กล่าว