ในปีนี้บริษัทฯมั่นใจกำไรสุทธิจะมากกว่าปีก่อนที่ระดับ 757.75 ล้านบาท ตามการเติบโตของรายได้ที่บริษัทฯมั่นใจจะเติบโต 10-11% เนื่องจากทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวดีขึ้น รวมถึงเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา และในปัจจุบันก็เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น โดยคาดปริมาณการเติมน้ำมันปีนี้จะเติบโต 9.5% จากปีก่อน หลังในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาปริมาณเติมน้ำมันเติบโตแล้ว 9.4%
"ปีนี้ทุกๆอย่างคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้ สำหรับปีหน้าเราก็มีความเชื่อมั่นว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะโตน้อยกว่าปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากปีนี้มีการเติบโตค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในสนามบินดอนเมืองที่มีการเพิ่มเส้นทางบินของสายการบินต้นทุนต่ำ และการเพิ่มสายการบินใหม่ๆเข้ามา"นายประกอบเกียรติ กล่าว
นายประกอบเกียรติ กล่าวว่า การลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FPT) เป็นไม่ต่ำกว่า 75% จากปัจจุบัน 91.55% จะไม่เป็นผลกระทบต่อภาพรวมของผลประกอบการ ซึ่งขั้นตอนการลดสัดส่วนการถือหุ้นจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยการลดสัดส่วนการลงถือหุ้นในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการลดภาระการลงทุนที่จะเกิดขึ้นในโครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือ ที่มีมูลค่าราว 7,000 ล้านบาท ที่จะใช้ระยะเวลาการก่อสร้างราว 30 เดือน ซึ่งปัจจุบันก็ได้เริ่มโครงการไปแล้ว
"การลดสัดส่วนการถือหุ้นใน FPT จะได้ข้อสรุปสัดส่วนการกระจายในปีนี้แน่นอนส่วนกระบวนการอื่นๆก็จะพยายามทำให้เสร็จภายในปีนี้เช่นกัน ซึ่งการลดสัดส่วนการถือหุ้นลงนั้นจะไม่เป็นผลกระทบต่อผลประกอบการ เพราะทาง FPT ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทำให้เงินปันผลที่จะได้กลับมาก็ยังใกล้เคียงกับการถือหุ้นในระดับเดิม "นายประกอบเกียรติ กล่าว