"หลังจากที่ผ่านมาเราได้มีการพัฒนาโครงการทั้งแนวราบและแนวสูง แต่เราก็พบว่าเรามีความสามารถในการพัฒนาโครงการแนวราบมากกว่า ต่อจากนี้เราจึงจะเน้นการพัฒนาแนวราบเป็นสัดส่วน 90% ของโครงการ และส่วนของคอนโดมิเนียมเราจะหาพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญและสนใจในแต่ละโครงการเพื่อเข้ามาพัฒนาแทน"นายทนงศักดิ์ กล่าว
นายทนงศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับผลประกอบการไตรมาส 4/58 คาดว่าจะออกมาดีกว่าไตรมาส 3/58 ทั้งในแง่ รายได้ กำไรสุทธิ และยอดขาย เนื่องจากบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) 4,671 ล้านบาท ที่จะสามารถรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ราว 1,000 ล้านบาท และบริษัทจะเร่งยอดขายให้มากขึ้น ขณะที่เห็นว่ากำลังซื้อของประชาชนยังดีอยู่ในทำเลชานเมือง ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ยอดขายและรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ว่าจะมีรายได้ 4,000 ล้านบาท และยอดขาย 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 59 ที่ระดับ 5,000 ล้านบาท และยอดขายที่ 7,000 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะลดลงมาอยู่ที่ราว 20% จากคาดราว 26% ในปีนี้ เนื่องจากปี 59 จะรับรู้รายได้โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งมีอัตรากำไรน้อยกว่าโครงการแนวราบ เข้ามาเป็นสัดส่วน 60% และโครงการแนวราบ 40% จากปีนี้ที่มีรายได้จากโครงการแนวราบทั้งหมด
"ปีหน้าอัตรากำไรสุทธิคงจะลดลง เพราะเรามีการรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามา แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของกำไรสุทธิก็คงไม่ลดลงเพราะถึงแม้ว่าอัตรากำไรสุทธิจะลดลงแต่เรายังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเข้ามาชดเชย"นายทนงศักดิ์ กล่าว