ทั้งนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ แนะนำให้ “เพิ่มพอร์ตลงทุน" (Overweight) ในหุ้นอินเดีย โดย ณ วันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นอินเดีย SENSEX อยู่ที่ระดับ 25,867 จุด หรือปรับฐานลงมาถึง -6% ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกือบเท่าจุดต่ำสุดของปีที่แล้ว ในขณะที่เป้าหมายในระยะ 12 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 31,000 จุด หรือเท่ากับยังเปิดอัพไซด์อีกประมาณ 20% จากปัจจุบัน
“ตลาดหุ้นอินเดียถือเป็นโอกาสใหม่ที่น่าลงทุน เรามองว่าการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมาเป็นการปรับฐานเพียงระยะสั้นๆ โดยหากดูพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อินเดียยังคงเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในโลก และจะเป็นเพียงประเทศเดียวที่ GDP ขยายตัวมากกว่า 7% ตลอดช่วง 5 ปีจากนี้ โดยองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประมาณการเศรษฐกิจอินเดียในปีนี้ไว้ที่ 7.2% และปี 2016-2017 อยู่ที่ 7.3% และ 7.4% ตามลำดับ ทำให้ตลาดหุ้นอินเดียมีความน่าสนใจมาก" นายสาห์รัช กล่าว
“กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#2" จะเน้นลงทุนในตลาดหุ้นอินเดีย ผ่านกองทุนหลักคือ iShares MSCI India ETF ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟในตลาดหลักทรัพย์ BATS ในสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างผลตอบแทนของกองทุน ให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI India Total Return ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อินเดีย โดยมีเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากเปิดให้ซื้อขายสับเปลี่ยนได้ทุกวันทำการ ซึ่งการกำหนดเป้าหมายดังกล่าวไม่ใช่ประมาณการหรือการรับประกันผลตอบแทนว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนตามเป้าหมายเมื่อเลิกกองทุน
ที่ผ่านมา บลจ. ทิสโก้ ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ในซีรีย์หุ้นอินเดียมาแล้วทั้งสิ้น 1 กองทุน ได้แก่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ อินเดีย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8%#1" และเข้าเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% หลังจากใช้ระยะเวลาบริหารกองทุนเพียง 1 เดือนเศษ โดย ณ วันที่ 13 พ.ย. 58 บลจ. ทิสโก้สามารถบริหารกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ ถึงเป้าหมายและเลิกโครงการแล้ว 65 กองทุน จากจำนวนทริกเกอร์ฟันด์ภายใต้การจัดการทั้งหมด 104 กองทุน