นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซต์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบ ในกรอบ 1,380-1,390 จุด คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อยราว 0.1-0.3% หลังจากที่ตลาดสหรัฐฯปิดในแดนลบเล็กน้อย จากกำไรของธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพหดตัวลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลงด้วย ส่วนตลาดทางฝั่งยุโรปก็ยังมีความคาดหวังจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) ที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
สำหรับฝั่งจีนทางธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในโครงการเงินกู้ช่วยเหลือระยะสั้นให้กับสถาบันการเงินของจีน ซึ่งแสดงถึงจีนมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลาย และประคองเศรษฐกิจ
ส่วนตลาดหุ้นไทยก็มีปัจจัยบวกเล็กๆ จากงาน Set in the City ที่ทำให้มีเงินไหลเข้ามาในตลาดได้
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(19 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,732.75 จุด ลดลง 4.41 จุด(-0.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,073.64 จุด ลดลง 1.56 จุด(-0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,081.24 จุด ลดลง 2.34 จุด(-0.11%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 59.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 4.83 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 4.55 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 10.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.73 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 41.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.11 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.05 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 พ.ย.58)1,384.97 จุด เพิ่มขึ้น 8.15 จุด(+0.59%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 387.40 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 พ.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 พ.ย.58) ปิดที่ 40.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 พ.ย.58)ที่ 9.35 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.78/80 กลับมาแข็งค่าจากแรงเทขายดอลล์ มองกรอบ 35.65-35.85
- รมว.คลังเตรียมเสนอ Thailand Future Fund 1 แสนล้าน เข้า ครม.ภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมหนุนแบ่งเงินประมูล 4G ไปสร้าง บ้านเพื่อคนจนและลงทุนพัฒนาระบบ National E-payment พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานระบบการเงิน
- ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟทางคู่ สายฉะเชิงเทรา-คลอง สิบเก้า-แก่งคอย ในสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางรถไฟทางคู่ ช่วงฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-วิหารแดง และช่วงบัวใหญ่-แก่งคอย พร้อมทางคู่เลี่ยงเมือง 3 แห่ง โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ 9,825 ล้านบาท ต่ำกว่าราคากลางที่ตั้งไว้ 9,926 ล้านบาท ประมาณ 100 ล้านบาท หรือ 1%
- ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงแนวโน้มค่าไฟฟ้าในปี 2559 ว่า มีทิศทางปรับลดลงตามต้นทุนราคาเชื้อเพลิงทั้ง น้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่อยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากการ คำนวณอัตราค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) จะสะท้อนต้นทุนราคาเชื้อเพลิงย้อนหลัง 3-6 เดือน ที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังให้ความสำคัญกับการติดตามความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน และผลจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลล์)ที่จะเข้าระบบในปี 2559 กว่า 2,000 เมกะวัตต์ ด้วย
- ธปท.เผยการโอนเงินมูลค่าสูงผ่านระบบบาทเน็ตมีปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นตามธุรกรรมการกู้ยืมระหว่างสถาบันการเงินและการโอนเงินของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนใหญ่ช่วงมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น สะท้อนธุรกรรมรายย่อยมีแนวโน้มที่ดี
*หุ้นเด่นวันนี้
- STEC(ซีไอเอ็มบี)"ซื้อ"เป้า 33 บาท เป็นหุ้น top pick หลังชนะประมูลรถไฟทางคู่ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย สัญญา 1 เสนอราคาต่ำสุดที่ 9,825 ล้านบาท และมีโอกาสชนะประมูลมอเตอร์เวย์พัทยาจนถึงมาบตาพุด 1.4 หมื่นล้านบาทที่จะเปิดประมูล ธ.ค.คาดปีหน้าจะมีการประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานเกือบ 3.5 แสนล้านบาททั้งรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก รถไฟทางคู่ 4 โครงการและมอเตอร์เวย์ 2 โครงการ ขณะที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลืองน่าจะเปิดตัวในปี 60 รอรายละเอียดก่อนเข้าร่วม PPP
- PLAT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus เฉลี่ย 8.35 บาท กำไร 3Q58 ทรงตัวเทียบกับไตรมาสก่อน แต่โต 29%YoY โดยรายได้เพิ่มขึ้น 16%YoY (รายได้ค่าเช่า 58%, รายได้โรงแรม 19%)หลังยกเลิกกฎอัยการศึก และนักท่องเที่ยวเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แนวโน้มรายได้ 1-2 ปีทรงตัวเพราะไม่มีพื้นที่เช่าใหม่ แต่ครึ่งหลังปี 61 จะมีโครงการ The Market (ติด BigC ราชประสงค์) พื้นที่ 40,000 ตร.ม.ทำให้มีพื้นที่เช่ารวม 68,000 ตร.ม.และโรงแรม Holiday inn 2 แห่งที่สมุย 350 ห้องทำให้มีห้องพักรวม 633 ห้อง หนุนทั้งรายได้และกำไรปี 62 นอกจากนี้ MSCI เพิ่มน้ำหนัก PLAT มีผล 30 พ.ย. นี้
- PIMO((ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 2.30 บาท กำไรสุทธิ 3Q15 เริ่มฟื้นตัว +19% Q-Q แต่ยังลง 12% Y-Y เพราะมอเตอร์อุตสาหกรรมทรุดตามภาคเกษตรและลูกค้ามอเตอร์ปั๊มน้ำรายใหญ่ชะลอคำสั่งผลิต แต่เริ่มกลับมาสั่งผลิตแล้ว ขณะที่ราคาทองแดง อะลูมิเนียมและเหล็กที่เป็นวัตถุดิบหลักอยู่ในช่วงขาลงและ 4Q15 จะไม่มีค่าใช้จ่ายเข้าตลาดฯเหมือน 3Q15 ทำให้กำไรสุทธิ 4Q15 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง Q-Q ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PE 30 เท่าในปีนี้ แต่จะลดเหลือ 20 เท่าในปีหน้าหรือคิดเป็น PEG เพียง 0.7 เท่า ซึ่งเป็นปีรุกการส่งออกหลังได้ใบอนุญาตจากสหรัฐฯที่เป็นตลาดสำคัญ
- KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 210 บาท รายงานสินเชื่อเดือนต.ค.โตเพียง 0.09% M-M แม้จะเข้าไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นฤดูกาลที่ดีของการปล่อยสินเชื่อ ทำให้สินเชื่อรวม 10M15 เพิ่มขึ้น 2.69% YTD ห่างจากเป้าทั้งปีที่ 6% มากซึ่งค่อนข้างท้าทาย ราคาหุ้นวานนี้ปรับลงสวนทางกลุ่มตามกำไร 4Q15 ที่คาดหดตัวแรง 41% Q-Q และ 40% Y-Y ขณะที่กำไรปี 2016 คาดโตเพียง 2.5% Y-Y จากตั้งสำรองฯและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกดดัน แต่ยังเชื่อพื้นฐานแข็งแกร่งกว่ากลุ่ม NIM ที่สูงกว่า