ขณะนี้หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับผลตอบรับอย่างดีจากนักลงทุนจองซื้อเข้ามาเกินเป้าหมายมากกว่า 2 เท่าของจำนวนเสนอขาย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นใน บตท. ที่เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ และได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรเป็น AA- ต่อเนื่อง รวมทั้งตราสารหนี้ที่ออกมีผลตอบแทนดี ความเสี่ยงต่ำ และความมั่นคงสูง โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนสถาบัน เช่น สถาบันการเงิน ประกันภัย กองทุนต่างๆ รวมทั้งนักลงทุนรายใหญ่
สำหรับปีหน้านั้น บตท.เตรียมเดินหน้าสนับสนุนภาครัฐเป็นเครื่องมือทางการเงิน ระดมทุนเข้าสู่ระบบการเงินสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างเสถียรภาพในระบบเศรษฐกิจประเทศ
ขณะที่นางพรนิภา หาชัยภูมิ กรรมการและผู้จัดการ บตท.เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตต่อเนื่องจากการลงทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนได้รับผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงต่ำ เป็นสินทรัพย์ถาวรที่มีมูลค่าและมีความมั่นคงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่น ทำให้สนใจเข้าไปลงทุนในกองทุน และตราสารหนี้ในตลาดรองมากขึ้น สอดคล้องกับมาตรการภาครัฐกระตุ้นเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์และสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชน อาทิ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการสร้างบ้านคนจน กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านสำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้บทบาท บตท.ชัดเจนยิ่งขึ้นในการทำหน้าที่"ระดมเงินจากตลาดทุน"สามารถเป็นเครื่องมือในการระดมทุนเพื่อสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) โครงการที่อยู่อาศัยของภาครัฐ โดยการทำ Securitization หรือ“การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์"เพื่อระดมเงินให้กับหน่วยงาน หรือองค์กรที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การพัฒนาที่อยู่อาศัยบนพื้นที่ว่างเปล่าของรัฐ กล่าวคือ บตท. สามารถทำหน้าที่สนับสนุนนโยบายภาครัฐ อาทิ ทำหน้าที่เป็น “นิติบุคคลเฉพาะกิจของรัฐ"หรือ“Public SPV"ในการออกตราสารหนี้ระดมทุนเพื่อลดความซ้ำซ้อนในการจัดตั้ง SPV และลดต้นทุนภาครัฐ รวมทั้งลักษณะกิจการเพื่อสังคม(Social Enterprise) อาทิ การประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Mortgage Guarantee) สินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงด้านเครดิตให้สถาบันการเงิน และลดงบประมาณภาครัฐในช่วงการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยด้วย