สำหรับงวดไตรมาส 3/58 บจ.มียอดขาย 2,530,400 ล้านบาท ลดลง 11% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงเพียง 2% จากไตรมาส 2/58 โดยมีกำไรสุทธิ 27,041 ล้านบาท ลดลง 87% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้า และหากพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของฐานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/58 บจ. ยังคงมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (debt to equity ratio) (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) อยู่ที่ 1.29 เท่า
ทั้งนี้ บจ. มีความสามารถในการบริหารต้นทุนได้ดีในงวด 9 เดือนปี 58 และงวดไตรมาส 3/58 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
“ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 58 ได้รับผลกระทบจากยอดขายและกำไรสุทธิในไตรมาส 3/58 ที่ปรับลดลงแรง จากรายการพิเศษของกลุ่มธุรกิจพลังงาน กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ และกลุ่มธุรกิจเหล็กปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบและราคาเหล็กซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันในปีก่อน ในขณะที่ผลการดำเนินงานปกติอ่อนตัวลงเล็กน้อย ทั้งนี้ หากไม่รวมหมวดธุรกิจดังกล่าว ผลประกอบการงวด 9 เดือนของปี 58 ของ บจ.จะมียอดขายโตเพิ่มขึ้น 1% และมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันในปีก่อนจากการบริหารต้นทุนได้ดี" นายสันติ กล่าว
หมวดธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานดีขึ้นในงวด 9 เดือนและในไตรมาส 3/58 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ทั้งด้านยอดขายและกำไรสุทธิ มี 4 หมวดธุรกิจคือ หมวดพาณิชย์ หมวดการแพทย์ และหมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารซึ่งเกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคในประเทศ รวมถึงหมวดยานยนต์ซึ่งฟื้นตัวจากการส่งออก